วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สดชื่นยามเช้าสำหรับคนนอนดึก

ใครที่นอนดึกเป็นประจำ แล้วอยากตื่นขึ้นมาสดใส วันนี้มีเคล็ดลับมาฝาก...
- น้ำมะนาว สำหรับคนชอบเที่ยวสถานที่กลางคืน พอตื่นขึ้นมาจะรู้สึกเจ็บคอ แนะนำให้หาน้ำมะนาวมาดื่ม เพราะมะนาวจะมีกรดมะนาว หรือ กรดซิกตริก แถมมีน้ำมันหอมระเหยอยู่เล็กน้อยพอได้กลิ่นหอมชวนดื่มจากเปลือกที่โดนคั้น แถมยังมีวิตามินซี ที่นอกจากจะช่วยขับเสมหะแก้อาการเจ็บคอ ยังช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย
- น้ำขิง สำหรับคนที่รู้สึกเมาค้าง ลองหาน้ำขิงร้อนๆ มาดื่ม เพราะขิงเป็นสมุนไพรที่มีรสชาติและกลิ่นพิเศษ ขิงมีสารเคมีชนิดหนึ่งประเภทน้ำมันหอมระเหย ให้ทั้งรสและกลิ่น การทำน้ำขิงให้อร่อย ให้บุบหัวขิงที่ยังไม่แก่จัดจนเกินไป ต้มด้วยน้ำร้อนพอเดือด หากต้มนานเกินไปขิงจะเสียรสเสียกลิ่น จะดื่มเปล่าๆ หรือเติมน้ำตาลให้รสชาติหวานน่ากินก็ได้
- น้ำผัก น้ำผลไม้ ดื่มง่ายแถมยังอุดมไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิด ในน้ำผัก น้ำผลไม้ มีส่วนผสมของน้ำตาล สามารถให้พลังงานแก่ร่างกายช่วยให้หายเหนื่อย หายเพลีย ทำให้ร่างกายสดชื่น อีกทั้งยังมีแร่ธาตุ เช่น โซเดียม โปแตสเซียม สังกะสี ที่จะเข้าไปทดแทนในส่วนที่เสียไป
- น้ำหวานๆ คนที่นอนดึกส่วนใหญ่จะตื่นขึ้นมาแล้วมีอาการปวดหัว มึนศีรษะ รู้สึกเกิดอาการเครียดทางประสาท นั่นก็เพราะว่าร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ อาหารที่มีสามารอาหารของแป้งและน้ำตาลสามารถช่วยได้

นิสัยดี ๆ ที่ควรสอนลูก

นิสัยดี ๆ ที่ควรสอนลูก
วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีนิสัยดี ๆ ที่ควรสอนลูกมาบอกคุณพ่อ คุณแม่ทุกคน...
สั่งน้ำมูกให้หมด : ยิ่งสอนให้เด็กๆสั่งน้ำมูกเป็นเร็วเท่าไหร่ก็จะลดปัญหาสุขภาพได้มาก เพราะจมูกที่คั่งด้วยน้ำมูกก็จะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาหูและโรคอื่นๆอีกมาก
บริโภคอาหารเช้าทุกวัน : มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดเพราะจะช่วยให้เด็กๆคิดและเรียนดีขึ้น
ปกป้องผิวตนเอง : ผู้เป็นมะเร็งผิวหนังส่วนใหญ่มักเกิดจากการตากแดดสะสมตั้งแต่วัยเยาว์ สอนให้เด็กๆรู้เรื่องนี้และทาครีมกันแดดก่อนทุกครั้ง
ขยับร่างกายกำลังบ้าง : เด็กมักชอบนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์หรือดูโทรทัศน์นานๆโดยไม่ขยับไป ไหนๆทำให้เจ็บป่วยบ่อยๆ ควรให้เขามีกิจกรรมด้านอื่นๆบ้าง
ดูแลสุขภาพฟันของตน : การไม่แปรงฟันหรือปล่อยให้ฟันผุจะมีโรคร้ายอื่นๆตามมา ปิดปากและล้างมือเมื่อจาม : มีเชื้อโรคหลายชนิดที่อยู่ในน้ำลายเวลาไอหรือจามออกมา เช่น เชื้อหวัด เชื้อโรคหัด โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฯลฯ
รู้จักบริโภคอาหารที่มีคุณค่า : อย่าให้เด็กติดอาหารขยะเป็นนิสัย ทำให้เป็นโรคอ้วนและเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานเมื่อโตขึ้น
เข้าห้องน้ำทุกเช้า : ควรถูกฝึกหัดเรื่องกิจวัตรการขับถ่ายประจำวัน แพทย์ระบุว่าอาการเตือนเกี่ยวกับระบบขับถ่ายของร่างกายจะเกิดขึ้นมากที่สุด คือช่วงหลังอาหารเช้า รู้อย่างนี้แล้ว ลองนำคำแนะนำไปสอนลูกกันดูได้

รับมืออย่างไรเมื่อทำงานพลาด

ความสำเร็จกับความผิดพลาดเป็นของคู่กันของการทำงาน
ความสุขจากความสำเร็จนั้นอาจไม่ต้องพูดถึง แต่ความทุกข์ที่คุณบกพร่องจากการทำงานนี่สิ ที่จำเป็นต้องรับมือตามน้ำหนักของความผิดพลาดนั้นๆ
ไม่แปลกอะไรที่คนทำงานอย่างเราๆ อาจทำงานผิดพลาดกันไปบ้าง แต่ว่าความผิดพลาดนั้นเราควรเก็บไว้เป็นบทเรียนและไม่ควรเกิดขึ้นอีกซ้ำสอง ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างจากเพื่อนๆ ที่ล้วนเคยมีปัญหาในการทำงานมาแล้วทั้งนั้น ตั้งแต่ปัญหาเล็กถึงปัญหาใหญ่ พร้อมคำแนะนำจากมืออาชีพ
พลาดเพราะฟังผิด
"ฉันเป็นคนจัดพื้นที่การวางสินค้าภายในอาคาร บังเอิญมีลูกค้าต่างชาติ โทรมาจองพื้นที่จัดกิจกรรมว่าจะเปิดบูธขายเครื่องสำอางค์เกาหลี แต่ฉันกลับได้ยินเป็นขายเก้าอี้ พอถึงวันนัดมีแต่บูธเครื่องสำอางค์เกาหลีมาตั้ง ฉันก็ไม่พอใจเพราะไม่ได้จองไว้ จึงให้รปภ. ไปเรียกกะว่าจะต่อว่าเต็มที่ทีเดียว เขาก็บอกว่าจองแล้ว โดยวันเวลาที่ลูกค้าแจ้งตรงกับบูธขายเก้าอี้ทุกวัน พอฉันรู้ตัวว่าได้ยินผิดเองก็ทำหัวเราะกลบเกลื่อนไป" คุณวิศราภรณ์ นิลเพ็ชรรัตน์ พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
ประสบการณ์น้อยแถมไม่ทำการบ้าน
"ตอนเข้าทำงานในนิตยสารเด็กใหม่ๆ ต้องทำคอลัมน์เกี่ยวกับการเรียนรู้เรื่องโดเรมอน มีการจัดงานแฟร์ใหญ่โตมากมาย แต่พอถ่ายรูปกลับมาให้หัวหน้าดู เขาบอกว่ารูปภาพไม่สื่ออะไรเลยให้กลับไปถ่ายใหม่ เราต้องโทรศัพท์ไปขออนุญาตกับเจ้าของงานอีกครั้งและโชคดีที่เขาเข้าใจ แต่ก็พลาดช็อตสำคัญไปหลายอย่าง งานนี้เป็นเพราะเราไม่มีประสบการณ์แล้วก็ชะล่าใจ ไม่ยอมคุยงานก่อนไปคิดว่าถ่ายอะไรมาก็ได้ เรียกว่าเสียเซลฟ์ไปพักใหญ่เลย" คุณสุชาดา เทพหินลัพ พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
บริษัทเสียชื่อเพราะฉัน
"ฉันรับงานสติ๊กเกอร์ 200,000 ชิ้นให้แก่บริษัท โดยสัญญากับลูกค้าว่าจะเสร็จภายใน 3 สัปดาห์ แต่เมื่อใกล้วันนัดส่งงาน ฉันมานับดูได้แค่ 100,000 ชิ้น ซึ่งทางลูกค้าดุมากและไม่ยอมให้เราส่งช้าเด็ดขาด สุดท้ายเราก็โทรไปหาลูกค้าซึ่งเขาต่อว่ายับเยินมาก รวมทั้งจะไม่จ่ายเงินสำหรับค่าสติ๊กเกอร์ที่เสร็จแล้วด้วย แต่พอส่งงานเสร็จลูกค้าก็ใจเย็นลงและทุกวันนี้ก็ยังส่งงานให้อยู่ต่อเนื่อง เพราะเขายังไว้ใจที่เราไม่โกหกเขา" คุณพัศญา สรสิทธิ์ พนักงานบริษัทเอกชน
สะเพร่าจนลงชื่อผิด
"ฉันทำงานให้ลูกค้าใหญ่ลงในหนังสือฉบับหนึ่ง ด้วยเนื้องานต้องสัมภาษณ์และลงรายละเอียดสินค้ามากมาย ฉันว่าเช็กเรียบร้อยแล้วตัวสินค้าถูกต้องหมดทุกตัว แต่เมื่องานกระจายออกไปกลับมาต่อว่าเรา เนื่องจากเราลงนามสกุลของลูกค้าผิดอย่างสิ้นเชิง ทำให้ต้องขอหัวหน้าลงแก้ไขให้เขาใหม่อีกครั้ง นับแต่นั้นมาลูกค้าก็ไม่คุยกับบริษัทเราอีกเลย" จิรภัทร มหาวัตรรัตนชัย พนักงานบริษัท

ยุงและความรัก

ยุงหิวโหย.. อาหาร จึงออกหาเลือดอุ่น ๆ รองท้อง คนหิวโหย.. ความรัก จึงออกตามหารักอุ่น ๆ รองใจ ศิลปะการดื่มเลือดของยุง คือ ค่อย ๆ ย่อง อุ๊ย!! บินซิเนอะ บินเข้าไปในมุมมืด บรรจงแทงปากทะลุทลวงผ่านผิว เข้าไปดูดเลือดอุ่น ๆ ของคุณ โดยคุณไม่รู้ตัว ศิลปะความรัก คือบรรจงแทรกแซง ชอนไช ทะลุทลวงความรู้สึก เข้าไปฝังลึกอยู่ในหัวใจ ของคุณอย่างช้า ๆ อบอุ่นในหัวใจ โดยคุณไม่รู้ตัว กว่าคุณจะรู้ตัว รักก็มากมายเกินห้ามใจ ยุงตัวไหน ปากหนัก กัดเจ็บ บินไม่เร็วพอ บินไม่รู้จังหวะ บินผิดมุมให้คนเห็นหรือรู้ตัวก่อน ถึงฆาตมาแล้ว กว่า 90 % น้อยนักที่จะรอดฟันฝ่ามือพิฆาตและไบกอนเขียวไปได้ คนคนไหน ไม่เคยรัก ไม่รู้จักรัก จีบไม่เป็น ไม่มีโอกาส ไม่รู้กาละเทศะ และเหตุผลอีกมากมาย นานับประการที่จะหยิบมาเอ่ยอ้างถึง ความไม่สันทัดจัดเจนเรื่องรัก ก็น้อยนักที่จะรอดพ้น อาการแห้วไปได้ พอยุงกินอิ่มหนำก็บินจากไป และพร้อมจะกลับมาใหม่เมื่อโหยหิว ก็เหมือนรักของคนเจ้าชู้อิ่มหนำแล้วก็ผ่านไป แต่จะกลับมาใหม่เมื่อโหยหา ถึงจะถูกตบ ถูกฉีดยา ถ้าไม่ตายเสียก่อน พร้อมจะกลับมาใหม่เมื่อหิวอีกครา ไม่เข็ดแฮะ ก็เหมือนคน เจ็บช้ำสักเท่าไหร่ ถ้าไม่ถึงตาย หัวใจก็ยังโหยหารักอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ถึงจะกางมุ้ง จุดยากันยุง หรือติดมุ้งลวด ยุงก็ยังคงเข้ามาได้อยู่ดีแหละ ความรักก็เหมือนกัน ห้ามใจเท่าไหร่ หลีกหนียังไง รักก็ยังเล็ดลอดเข้ามาได้อยู่ดี

ประโยชน์ของFree E-mail

1.www.blogger.com
-ได้ที่ ที่สามารถเผยแพร่ความรู้ ความสนใจของเรา
-สามารถแบ่งบันความรู้ที่เรามีให้กับผู้อื่น
2.www.4shared.com
-ได้พื้นที่จัดเก็บงานขนาดใหญ่มาก
-สามารถแบ่งปันงานที่เราทำด้วยการdownlond
3.www.picturetrail.com
-สามารถทำสไลด์รูปแบบที่เราต้องการได้

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ประโยชน์จากงานกราฟิค

1.สามารถแก้ไขรูปภาพที่ผิดเพี้ยนไปไห้เหมือนเดิมได้
2.สามารถปรับรูปภาพให้แตกต่างจากเดิมได้
3.สร้างรายได้เสรมระหว่างเรียนได้
4.ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

โคลงสี่สุภาพ เรื่อง การรักชาติ

อันคนไทยเดี่ยวนี้
มีมาก เหลือล้น
ถึงบ่มีรักจาก
พี่น้อง
เรามีพ่อเมืองตาก
ตัวอย่าง ดีแฮ
จากพ่อถึงเราพร้อง
บ่รู้รักษ์ไทย

ประพันธ์โดย
ปรัชญา เศษโถ

กลอนสุภาพ เรื่อง คุณธรรมนำไทย

คุณธรรมนำไทยใช้ชีวิต
มีผู้คิดค้นมาสมศักดิ์ศรี
เกิดเป็นชนชาวไทยต่างมีดี
งานครั้งนี้มีไว้ให้คนไทย
คุณธรรมนำไทยใช้ไปนี้
ทำให้มีสิ่งดีดีที่สดใส
ประเทศชาติถึงจะไปก้าวหน้าไกล
เมื่อคนไทยรู้จักใช้คุณธรรม

ประพันธ์โดย
ปรัชญา เศษโถ

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เพลงความรู้สึกดีๆ(ที่ไม่อาจบอกใคร)

ทั้งที่ฉันจริงใจ และเธอก็จริงจัง
แต่เรานั้นไม่อาจ พูดให้ใครฟัง ได้เพียงเงียบไว้
มันเป็นเรื่องดีๆ ที่มีเราเท่านั้นเข้าใจ ทำได้แค่มองตา ไม่กล้าให้ใครรับรู้เรื่องเราสองคน
อยากเปิดเผยใจตัวเองเท่าไร ต้องกลั้นใจทำเฉยๆเท่านั้น
บ่อยครั้งก็ถามตัวเอง แต่แล้วก็ไม่พบคำตอบเหมือนกัน
ทำไมต้องเก็บซ่อนใจไว้อย่างนี้ ที่เราทำไม่ดียังไง
ต่างก็รู้ว่าเราห่วงใย และคิดถึงกันมากแค่ไหน
แต่ต้องซ่อนไว้ทุกวัน เราทำสิ่งไหน ที่ผิด ถึงต้องปิดไว้ลึกๆแค่นั้น
จะมีไหมสักวัน ได้เผยมันไปทุกความรู้สึกดีๆ
หวังสักเสี้ยวนาที จะมีคนเห็นด้วยกับเรา
ไม่ค่อยว่าอะไรถ้ารู้ว่าเรามีใจให้กันมากมาย
อยากเปิดเผยใจตัวเองเท่าไร ต้องกลั้นใจทำเฉยๆเท่านั้น
ฃบ่อยครั้งก็ถามตัวเอง แต่แล้วก็ไม่พบคำตอบเหมือนกัน
ทำไมต้องเก็บซ่อนใจไว้อย่างนี้ ที่เราทำไม่ดียังไง
ต่างก็รู้ว่าเราห่วงใย และคิดถึงกันมากแค่ไหน
แต่ต้องซ่อนไว้ทุกวัน เราทำสิ่งไหน ที่ผิด ถึงต้องปิดไว้ลึกๆแค่นั้น
จะมีไหมสักวัน ได้เผยมันไปทุกความรู้สึกดีๆ
ใจเราตรงกันแท้ๆ แต่กลับต้องทนเหนื่อยล้า ช่างน่าเจ็บปวดจริงๆ
ทำไมต้องเก็บซ่อนใจไว้อย่างนี้ ที่เราทำไม่ดียังไง
ต่างก็รู้ว่าเราห่วงใย และคิดถึงกันมากแค่ไหน
แต่ต้องซ่อนไว้ทุกวัน เราทำสิ่งไหน ที่ผิด
ถึงต้องปิดไว้ลึกๆแค่นั้น จะมีไหมสักวัน ได้เผยมันไปทุกความรู้สึกดีๆ

เรื่องย่อ ละครพรุ่งนี้ก็รักเธอ

ปรมินทร์ และแก้วกัญญาเป็นคู่รักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จนทั้งคู่เรียนจบทำงานและร่วมกันสร้างฝันในอนาคตมากมาย คืนหนึ่งที่ปรมินทร์พาแก้วกัญญาและครอบครัวของแก้วกัญญา อันได้แก่ ฟองจันทร์ ผู้เป็นแม่ กิ่งกาญจน์ พี่สาวคนโต และก้องบดินทร์ น้องชายคนเล็ก ไปเที่ยวทะเลพร้อมกับกลุ่มเพื่อน ทั้งคู่แอบแยกมาพลอดรักกันที่ริมทะเลแล้วเกือบจะเผลอใจมีอะไรกัน แต่ก็ยับยั้งชั่งใจไว้ได้ ปรมินทร์และแก้วกัญญาให้สัญญาต่อกันว่าจะรักและอยู่เคียงข้างกันตลอดไป ความรักที่คนทั้งสองมีต่อกันเป็นที่ชื่นชมของคนรอบข้าง รวมทั้งปัทมาศ พี่สาวของปรมินทร์ที่แต่งงานกับพิพัฒน์ เศรษฐีอันดับต้นๆของเมืองไทย ปัทมาศมีลูกสาวอายุได้ขวบกว่าๆชื่อ หนูนิ่ม เธอยินดีที่จะให้กิ่งกาญจน์ มาทำหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กตามคำแนะนำของปรมินทร์ ความเป็นคนอ่อนโยน มองโลกในแง่ดีของกิ่งกาญจน์ซึมซับเข้าไปในจิตใจของปัทมาศ ผู้ซึ่งขาดความรักจนเกือบเป็นโรคประสาทอ่อนๆได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ปัทมาศรักและให้ความไว้วางใจกิ่งกาญจน์มากกว่าใคร โดยไม่รู้ว่าพิพัฒน์เองก็พอใจในตัวกิ่งกาญจน์และรอคอยจังหวะที่จะเข้าถึงตัวกิ่งกาญจน์อยู่ เมื่อปัทมาศเริ่มสงสัยว่าพิพัฒน์ สามีผู้พร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติอาจจะนอกใจไปมีผู้หญิงอื่น เธอก็ได้กิ่งกาญจน์เป็นที่ปรึกษาและปลุกปลอบใจ จนกระทั่งวันหนึ่งปัทมาศทนไม่ไหวแอบตามพิพัฒน์ไปที่โรงแรม เมื่อเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่เธอเห็นคือภาพของพิพัฒน์กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับกิ่งกาญจน์ เพื่อนรักของเธอนั่นเอง ด้วยความผิดหวังและคลั่งแค้น ทำให้ปัทมาศขาดสติยิงกิ่งกาญจน์ ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล กิ่งกาญจน์ได้มีโอกาสสั่งเสียฟองจันทร์ แก้วกัญญา และก้องบดินทร์ เธอยืนยันกับแม่และน้องว่าถูกพิพัฒน์ล่อลวง และเธอไม่เคยมีอะไรกับพิพัฒน์ แก้วกัญญาเสียใจมาก ปรมินทร์ยินดีที่จะอยู่เคียงข้างคนรัก แต่นั่นยิ่งทำให้ทั้งคู่ต้องอึดอัดและลำบากใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เห็นปรมินทร์ ทุกคนในครอบครัวของแก้วกัญญา รวมทั้งแก้วกัญญาก็อดไม่ได้ที่จะเสียใจเพราะนึกถึงเหตุการณ์ที่ปัทมาศทำกับกิ่งกาญจน์ ชาวบ้านต่างก็นินทาและพูดถึงกิ่งกาญจน์ในแง่ร้าย ปัทมาศถูกดำเนินคดีติดคุก สร้างความเสียใจให้กับปรมินทร์ แต่เขาก็เข้าใจแก้วกัญญาที่ไม่สามารถอยู่เคียงข้างเขาได้ ซ้ำร้ายเมื่อเขาพาแก้วกัญญาไปเยี่ยมปัทมาศที่คุก ปัทมาศก็คลุ้มคลั่งตะโกนด่าแก้วกัญญา ว่าเป็นน้องสาวของผู้หญิงแพศยา และนิสัยก็คงเหมือนกับพี่สาว เธอยื่นคำขาดให้ปรมินทร์เลิกกับแก้วกัญญา ปรมินทร์ทั้งสงสารและเห็นใจแก้วกัญญา แต่เขาก็ทำได้แค่เป็นคนกลางคอยไกล่เกลี่ยและปลอบใจแก้วกัญญา ในที่สุดแก้วกัญญาที่ต้องรับปัญหามากมายก็ทนไม่ไหว เธอตัดสินใจหันหลังให้กับปรมินทร์และทุกอย่างเพื่อตัดปัญหาและไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ปรมินทร์ที่ฝากความหวังทุกอย่างในชีวิตไว้ที่แก้วกัญญาต้องลอยเคว้งจับต้นชนปลายไม่ถูก แก้วกัญญาเองก็ไม่ต่างอะไรกับปรมินทร์ แต่เธอจำต้องตัดความสุขของตนเองทิ้งไปเพื่อความสุขของแม่และน้อง สุดท้ายเมื่อสิ้นหวังที่จะทำให้แก้วกัญญากลับมา ปรมินทร์จึงตัดใจลืมแก้วกัญญาแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่
ห้าปีผ่านไป
ปรมินทร์กลายเป็นคนใหม่ เจ้าเสน่ห์ ขี้เล่น เป็นนักธุรกิจที่ถูกจับตามอง ทุกคนต่างก็รู้ว่าเขาเป็นแฟนกับวรรณอร สาวสวยไฮโซ ทายาทร้านเพชรชื่อดัง ดูจากภายนอกเหมือนว่าปรมินทร์จะลืมแก้วกัญญาไปได้จนหมดหัวใจ แต่เมื่อแก้วกัญญาที่จำต้องพาแม่และน้องย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ ผึ้ง เพื่อนสนิทที่รู้เรื่องของเธอและปรมินทร์เป็นอย่างดี แนะนำให้แก้วกัญญาเข้าทำงานที่บริษัทเดียวกับที่ผึ้งทำอยู่ ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับปรมินทร์ ผึ้งให้เหตุผลว่าเธอรู้จักกับฝ่ายบุคคลและพอจะฝากงานได้ ส่วนปรมินทร์ก็ประจำอยู่ที่สาขาฮ่องกงและไม่มีวันได้พบกับแก้วกัญญา แก้วกัญญาจึงยอมมาทำงานด้วย และโดยไม่คาดฝันอยู่ๆปรมินทร์ก็ถูกย้ายกลับมากรุงเทพ เขาได้พบกับแก้วกัญญาอีกครั้ง ปรมินทร์บอกตนเองว่าเขาโกรธและต้องการทำให้แก้วกัญญาเจ็บเหมือนที่ตนเคยถูกทิ้ง เขาจึงใช้อำนาจหน้าที่ดึงแก้วกัญญามาเป็นเลขาส่วนตัว แก้วกัญญาบอกตนเองว่าเธอจำต้องยอมเพราะต้องหาเงินไปรักษาแม่ แต่แท้ที่จริงแล้ว ทั้งคู่ต่างก็ยังเหลือเยื่อใยแห่งความรักเส้นบางๆต่อกัน แต่เพราะทิฐิจึงปฏิเสธไม่ยอมรับ แก้วกัญญากับปรมินทร์เย็นชาต่อกัน ทำให้ปรมินทร์หงุดหงิดและพาลว่าที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะแก้วกัญญามีแฟนใหม่ ซึ่งก็คือ นุติ หนุ่มแผนกออกแบบผลิตภัณฑ์ที่หลงรักแก้วกัญญา และคอยตามดูแลแก้วกัญญาตลอดเวลา ผึ้งเองก็แอบชอบนุติแต่เมื่อเห็นว่านุติชอบแก้วกัญญาก็พยายามทำใจเป็นเพื่อน ต่างจากปรมินทร์ที่ไม่เคยทำใจได้เลยเวลาเห็นแก้วกัญญากับนุติอยู่ด้วยกัน ปรมินทร์จึงยิ่งแกล้งใช้งานแก้วกัญญาที่ยังไม่คุ้นกับงานเลขาจนหัวปั่น ไม่ว่าแก้วกัญญาจะทำอะไรก็ผิดและขวางหูขวางตาปรมินทร์ไปหมด เมื่อปรมินทร์เห็นแจกันดอกแก้วบนโต๊ะทำงานของแก้วกัญญา เขาก็ เขวี้ยงแจกันทิ้งอย่างไม่ใยดี ซ้ำยังด่าแก้วกัญญาว่าไม่ให้เอาดอกไม้กลิ่นน่าสะอิดสะเอียนมาให้เขาเห็นอีก ทั้งๆที่ในอดีตปรมินทร์ชอบเอาดอกแก้วมาให้แก้วกัญญาเสมอ “เพราะกลิ่นของมันหอมและบริสุทธิ์เหมือนแก้วกัญญา” แก้วกัญญายังจำคำที่ปรมินทร์บอกได้ดี ปรมินทร์แกล้งใช้งานแก้วกัญญาจนค่ำมืดแล้วปล่อยให้กลับบ้านเอง นุติอาสาจะช่วยเหลือ แต่แก้วกัญญาก็ปฏิเสธ แก้วกัญญาไม่บ่นสักคำ อีกทั้งยังยินดีที่จะขึ้นรถเมล์เบียดเสียดคนไปทำธุระให้เจ้านายเรื่องมากอย่างปรมินทร์ แต่สุดท้ายปรมินทร์เองก็ทนไม่ไหว แอบขับรถตามรถเมล์ที่แก้วกัญญาขึ้น โดยที่แก้วกัญญาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แก้วกัญญาไม่เคยรังเกียจงานที่ปรมินทร์ใช้ให้ทำเลย ยกเว้นอยู่เรื่องเดียวคือการดูแลหนูนิ่ม ลูกสาวคนเดียวของปัทมาศซึ่งตอนนี้อายุได้เจ็ดขวบ เพราะความที่พิพัฒน์ไม่สนใจครอบครัว ปรมินทร์จึงต้องทำหน้าที่ดูแลลูกของพี่สาว หนูนิ่มรักและเรียกปรมินทร์ว่า “พ่อปอ” ปรมินทร์รู้ว่าแก้วกัญญาไม่อยากทำเลยจงใจบังคับให้แก้วกัญญาต้องดูแลหนูนิ่ม แก้วกัญญาปฏิเสธ ปรมินทร์โกรธ ต่อว่าแก้วกัญญาว่า “อยากจะทิ้งปัญหาแล้วหนีไปง่ายๆเหมือนที่เคยทำก็ตามใจ เขารู้ว่านั่นเป็นวิธีแก้ปัญหาที่แก้วกัญญาถนัดอยู่แล้ว” เมื่อโดนย้ำปมความผิดที่เคยมี แก้วกัญญาก็รู้สึกผิดและจำต้องยอมเลี้ยงดูหนูนิ่มก้องบดินทร์ทราบเรื่องที่แก้วกัญญาต้องไปทำงานกับปรมินทร์และรับปากแก้วกัญญาว่าจะช่วยปิดแม่เป็นความลับ ก้องบดินทร์ที่ตอนนี้เป็นนักกายภาพบำบัดต้องทำงานทั้งที่โรงพยาบาล และคอยดูแลแม่ที่ป่วยฟองจันทร์เป็นห่วงลูกชายคนเล็กที่ไม่เคยพาแฟนมาที่บ้านว่าจะเหงา ก้องบดินทร์บอกแม่ว่าไม่ต้องห่วง ตอนนี้เขายังไม่คิดเรื่องความรัก แต่แท้ที่จริงแล้วเขามีความลับบางอย่างที่ปิดบังทุกคนอยู่ก็คือ เขาเป็นเกย์! ความลับนี้คงจะเป็นความลับต่อไป ถ้าเขาไม่ได้มาพบกับพีรวิชญ์ หนุ่มนักแข่งรถไฮโซ ผู้เอาแต่ใจ ครั้งแรกที่พบกัน ก้องบดินทร์ยอมรับว่าประทับใจในท่าทางกระด้างแต่แท้จริงแล้วจิตใจอ่อนโยนของพีรวิชญ์ พีรวิชญ์ที่เป็นคนปิดตัวเองก็เช่นกัน เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นบางอย่างเมื่อเวลาได้อยู่ใกล้ก้องบดินทร์ แต่เมื่อก้องบดินทร์รู้ว่าพีรวิชญ์เป็นน้องชายแท้ๆของพิพัฒน์ ผู้ชายที่เป็นสาเหตุทำให้กิ่งกาญจน์เสียชีวิต เขาก็ตัดใจหันหลังให้พีรวิชญ์ พีรวิชญ์ที่เป็นคนเอาแต่ใจ เห็นท่าทีหมางเมินของก้องบดินทร์ก็ขัดใจ แทนที่จะไม่สนใจ เขากลับยิ่งตามตื้อและพยายามถามเหตุผลของความหมางเมิน ทุกครั้งที่พบกันและทะเลาะกัน ทั้งคู่ก็ผูกพันกันโดยไม่รู้ตัว เมื่อรู้สาเหตุ พีรวิชญ์อึ้งไป แต่ก็เข้าใจก้องบดินทร์ดี พีรวิชญ์ขอร้องก้องบดินทร์ให้สนใจแค่ตัวเขา จริงๆแล้วเขากับพิพัฒน์ก็ไม่ค่อยถูกกัน และไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันมานานแล้ว ก้องบดินทร์ใจอ่อนและยอมคบกับพีรวิชญ์โดยไม่บอกให้ใครรู้
ระหว่างนี้แก้วกัญญาก็ขอลางานไปดูแลแม่บ่อยๆ เมื่อปรมินทร์ถามว่าไปไหน เธอก็ไม่ยอมบอกเพราะไม่อยากให้ปรมินทร์มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัว ปรมินทร์แอบตามแก้วกัญญาไปจนรู้เรื่องและเข้าใจทันทีว่าที่แก้วกัญญายอมให้เขาโขกสับก็เพราะต้องการหาเงินมารักษาแม่ ฟองจันทร์ได้เจอกับปรมินทร์ก็ตกใจ แก้วกัญญาแอบขอร้องไม่ให้ปรมินทร์บอกแม่เรื่องที่เธอมาทำงานกับเขา ฟองจันทร์เองก็ระบายกับแก้วกัญญาอย่างโล่งใจว่าโชคดีที่แค่บังเอิญพบกัน และคงไม่ได้เจอกันอีก เพราะไม่อยากให้ครอบครัวต้องเจอกับเรื่องสะเทือนใจอีก แก้วกัญญาได้แต่กล้ำกลืนความลับไว้แล้วตั้งใจกับตัวเองว่าจะทำแต่งานแล้วเลิกสนใจเรื่องในอดีต ปรมินทร์เองก็เลิกหาเรื่องแก้วกัญญาไปพักนึง ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดี แก้วกัญญาเริ่มทำงานคล่องขึ้น หนูนิ่มที่ไม่เคยมีแม่ก็รักและติดแก้วกัญญาถึงกับขอให้แก้วกัญญาไปเป็นผู้ปกครองที่โรงเรียนในวันแม่ ถึงแก้วกัญญาจะสงสารหนูนิ่มแค่ไหนแต่ก็ทำใจไม่ได้ที่จะต้องไปเป็นตัวแทนของคนที่ฆ่าพี่สาวตัวเอง เธอจึงปฏิเสธ วันงานอยู่ๆทางโรงเรียนก็โทรมาบอกว่าหนูนิ่มหายตัวไป แก้วกัญญาตกใจรีบไปตามหาที่โรงเรียนจนไปพบหนูนิ่มนั่งร้องไห้อยู่ที่ใต้ต้นแก้ว แก้วกัญญารีบเข้าไปกอดแล้วขอโทษหนูนิ่ม หนูนิ่มดีใจและขอเรียกแก้วกัญญาว่า “แม่แก้ว” แก้วกัญญาอึ้งไปแต่ก็ทนเสียงอ้อนของหนูนิ่มไม่ได้จึงต้องยอมอนุญาต หลังจากนั้นหนูนิ่มก็อวด “พ่อปอ” กับ “แม่แก้ว”ไปทั่ว วรรณอร แฟนของปรมินทร์ที่ไม่ชอบแก้วกัญญาเพราะมาทำงานสนิทกับปรมินทร์อยู่แล้ว เลยยิ่งเกลียดแก้วกัญญา วไลกร แม่ของวรรณอรก็ไม่พอใจแทนลูกสาว ยิ่งยุให้วรรณอรหาเรื่องแก้วกัญญา เพื่อให้ปรมินทร์ไล่แก้วกัญญาออก ทุกครั้งปรมินทร์จะเข้าข้างวรรณอรและด่าว่าแก้วกัญญาเสียๆหายๆ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมไล่แก้วกัญญาออก ด้านพิพัฒน์เมื่อได้ยินจากปากหนูนิ่มเรื่อง “แม่แก้ว” ก็กระหยิ่มใจ เพราะเขาเองก็หวังในตัวแก้วกัญญามานานแล้ว พิพัฒน์จึงใช้หนูนิ่มเป็นสะพานทอดมาหาแก้วกัญญา ทุกครั้งที่พบพิพัฒน์ แก้วกัญญาสุดแสนจะรังเกียจแต่ก็ปฏิเสธพิพัฒน์ไม่ค่อยได้เพราะพิพัฒน์จับทางได้และใช้หนูนิ่มมาเป็นข้ออ้างเสมอ ปรมินทร์เห็นแก้วกัญญาไปกับพิพัฒน์ก็ไม่พอใจ คอยตามไปเป็นก้างขวางคอและพูดจาถากถางแก้วกัญญาตลอดเวลา แก้วกัญญากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ได้แต่เจ็บช้ำกับคำพูดเจ็บแสบของปรมินทร์ แล้ววันที่พิพัฒน์วางแผนจะพาหนูนิ่มกับแก้วกัญญาไปเที่ยวสวนสนุกก็ถูกปรมินทร์ทำลายแผนอีกครั้ง ปรมินทร์กลายเป็นคนพาหนูนิ่มและแก้วกัญญาไปเที่ยวแทนพิพัฒน์ หนูนิ่มมีความสุขมาก พลอยทำให้ความบาดหมางในใจที่เคยมีของปรมินทร์และแก้วกัญญาถูกกลบไปด้วยความสดใสร่าเริงของหนูนิ่ม ทั้งสามคนเที่ยวอย่างมีความสุข แก้วกัญญาซื้อตุ๊กตาอัดเสียงให้หนูนิ่มเพื่อเป็นที่ระลึกในการมาเที่ยวครั้งนี้ หนูนิ่มรักและกอดตุ๊กตาตัวนี้ไว้ตลอดเวลา เมื่อปรมินทร์พาหนูนิ่มกลับมาถึงบ้าน ความสุขทั้งหมดก็มลายหายไปในพริบตาเมื่อพบว่าปัทมาศที่ได้รับการอุทรณ์จนถูกปล่อยตัวเพราะอ้างว่าป่วยทางจิต ออกจากคุกมารออยู่ที่บ้านพร้อมกับพิพัฒน์และวรรณอรแล้ว พอปัทมาศเห็นแก้วกัญญาก็โกรธ อาละวาดแล้วเรียกให้หนูนิ่มมาหาแม่ หนูนิ่มที่ตกใจและไม่คุ้นกับปัทมาศ แทนที่จะวิ่งไปกอดปัทมาศกลับวิ่งกลับมากอดแก้วกัญญาแล้วเรียกว่า “แม่แก้ว” ปัทมาศเลยยิ่งกรี๊ด ด่าไล่แก้วกัญญาจนต้องรีบออกจากบ้านไปด้วยความเจ็บแค้นใจ วรรณอรจึงได้รู้ว่าแก้วกัญญาเคยเป็นแฟนเก่าของปรมินทร์ ปรมินทร์อดสงสารแก้วกัญญาไม่ได้ เขาพาแก้วกัญญาไปเลี้ยงข้าวเพราะอยากให้แก้วกัญญาระบายเรื่องในใจออกมา แต่วไลกรกับวรรณอรรู้เรื่องตามมาวีนจนถูกปรมินทร์ไล่ออกไป อ้างว่ากำลังคุยเรื่องงาน วรรณอรโกรธไม่ยอม แอบโทรบอกปัทมาศ ปัทมาศเลยตามมาด่าถึงร้านที่ทั้งคู่ทานอาหารอยู่ด้วยกันแล้วสาดน้ำแกงใส่แก้วกัญญากลางร้าน แก้วกัญญาหนีกลับบ้านไป ปรมินทร์ทะเลาะกับปัทมาศจนรู้ว่าวรรณอรเป็นคนบอกปัทมาศ เขาเลยยิ่งโกรธ ทะเลาะกับวรรณอรใหญ่โต แทนที่วรรณอรจะหยุดแล้วเลิกยุ่งกับแก้วกัญญาอย่างที่ปรมินทร์บอก เธอกับแม่กลับยิ่งโกรธและพาปัทมาศไปหาแก้วกัญญาที่ขอหยุดงานที่บ้าน ปรมินทร์พอรู้ว่าแก้วกัญญาไม่มาทำงานเพราะโกรธเรื่องปัทมาศ ก็บังคับให้แก้วกัญญามาทำงาน เขาบอกกับเธอว่าจะไม่ยอมให้แก้วกัญญาหนีปัญหาเหมือนที่ผ่านมาอีก แก้วกัญญาจำต้องออกจากบ้านไปทำงาน โดยปล่อยให้แม่อยู่บ้านคนเดียวเพราะคิดว่าอีกไม่นานก้องบดินทร์ก็คงเลิกงานกลับบ้าน แต่ก้องบดินทร์มีเรื่องต้องเคลียร์กับ พีรวิชญ์เลยกลับบ้านช้า เมื่อวรรณอรกับวไลกรพาปัทมาศมาที่บ้าน จึงพบกับฟองจันทร์ที่อยู่บ้านคนเดียว ปัทมาศอาละวาดด่าฟองจันทร์แล้วฝากบอกให้แก้วกัญญาออกไปจากชีวิตปรมินทร์ ฟองจันทร์ที่ไม่รู้เรื่องปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ปัทมาศเลยยิ่งโมโหทำร้ายฟองจันทร์จนตกบันไดสลบไป คนข้างบ้านพาฟองจันทร์ไปส่งโรงพยาบาลแล้วโทรบอกแก้วกัญญา ปรมินทร์จึงรีบพาแก้วกัญญาไปโรงพยาบาล แก้วกัญญา ก้องบดินทร์ ปรมินทร์ได้แต่รอคอยผลอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน เหตุการณ์เหมือนจะซ้ำรอยตอนที่กิ่งกาญจน์เสีย แก้วกัญญาโกรธ ต่อว่าปรมินทร์ว่าเพราะอย่างนี้เธอจึงไม่อยากเกี่ยวข้องกับเขาอีก ปรมินทร์อึ้งไปแต่ก็เถียงว่าถ้าวันนั้นแก้วไม่ทิ้งเขาและหนีปัญหาไป เขากับเธอก็คงจะร่วมต่อสู้และฟันฝ่าปัญหาไปด้วยกันได้ แก้วกัญญาอึ้งเถียงไม่ออก หมอออกมาบอกว่าฟองจันทร์พ้นขีดอันตราย แก้วกัญญาเข้าไปหาแม่ แต่แม่กลับร้องไห้ตัดพ้อแก้วกัญญาเรื่องที่กลับไปเกี่ยวข้องกับปรมินทร์อีก แก้วกัญญาเสียใจที่ทำให้แม่เสียใจอีกครั้ง วันรุ่งขึ้นเธอจึงไปลาออก ปรมินทร์ไม่ยอม เขาตามมาคุยกับแก้วกัญญาต่อหน้าฟองจันทร์ ขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดและสัญญาว่าจะไม่ให้ปัทมาศมาวุ่นวายอีก พร้อมกับอ้างเรื่องสัญญาการทำงานที่แก้วกัญญายังทำไม่ครบจึงยังออกไม่ได้ ก่อนที่ฟองจันทร์จะตอบว่ายอมให้แก้วกัญญาทำงานต่อไปหรือไม่ เธอก็ถามปรมินทร์ตรงๆว่าตอนนี้คิดยังไงกับแก้วกัญญา ปรมินทร์มองหน้าแก้วกัญญาแล้วจำต้องบอกว่า เขากับเธอเป็นเจ้านายกับลูกน้อง แล้วตอนนี้เขาก็มีแฟนและรักกันดีอยู่ ฟองจันทร์จึงวางใจยอมให้แก้วกัญญากลับไปทำงาน แก้วกัญญาจำต้องกลับไปทำงานด้วยหัวใจที่บอบช้ำ เธอปฏิเสธทุกความช่วยเหลือที่ปรมินทร์ยื่นมาให้ แต่ปรมินทร์ก็ไม่ละความพยายามจนทะเลาะกับปัทมาศที่ต้องการให้ไล่แก้วกัญญาออก ปรมินทร์รับปากว่าเขาจะคอยดูไม่ให้แก้วกัญญามายุ่งกับพิพัฒน์เด็ดขาด แต่คนเจ้าเล่ห์อย่างพิพัฒน์ ถึงจะมีปัทมาศมาเป็นก้างขวางคอเพิ่มอีกคนก็ไม่เคยท้อถอย เขายังคงพยายามจะเข้าหาและทำดีกับแก้วกัญญาโดยใช้หนูนิ่มบังหน้า แล้วโชคชะตาก็เข้าข้างพิพัฒน์ เมื่อวันหนึ่งที่โรงพยาบาลที่แม่รักษาตัวอยู่โทรมาตามแก้วกัญญาด่วน ปรมินทร์ที่กำลังจะมาถึงบริษัท อาสาจะขับรถพาแก้วกัญญาไป แก้วกัญญาปฏิเสธเพราะจะรีบไป พิพัฒน์พาหนูนิ่มเข้ามาก็อาสาพาไปโดยอ้างว่าต้องพาหนูนิ่มไปหาหมออยู่แล้ว แก้วกัญญาร้อนใจจึงยอมไปกับพิพัฒน์ ปรมินทร์ที่ตามไปดักที่โรงพยาบาลเห็นแก้วกัญญามากับพิพัฒน์ แถมพิพัฒน์ยังแยกไปจ่ายเงินค่ารักษาให้ฟองจันทร์ ทั้งๆที่ปรมินทร์เคยขอร้องแก้วกัญญาว่าจะจ่ายให้หลายครั้งแต่แก้วกัญญาก็ไม่ยอม ปรมินทร์โกรธและผิดหวังในตัวแก้วกัญญามากออกจากโรงพยาบาลไปทันที แก้วกัญญาที่ไปดูอาการฟองจันทร์เมื่อออกมารู้ว่าพิพัฒน์จ่ายเงินค่ารักษาไปโดยไม่ได้บอกก่อนก็โกรธ และบอกพิพัฒน์ว่าจะเอาเงินมาคืนให้เร็วที่สุด หลังจากเหตุการณ์นั้นปรมินทร์ก็มึนตึง กลับไปเป็นคนขวางโลก วันๆเอาแต่หาเรื่องหนักกว่าที่เคยเป็น แก้วกัญญาแปลกใจแต่ก็คิดว่าดีกว่าให้เขามาทำดีกับเธอเพราะเธอก็กลัวตัวเองจะใจอ่อน แก้วกัญญาเลยเฉย พยายามไม่สนใจ ยิ่งทำให้ปรมินทร์เข้าใจผิดว่าเธอไม่แคร์เขา กระทั่งวันเกิดปรมินทร์ พนักงานที่บริษัทแอบจัดปาร์ตี้เซอร์ไพร์สวันเกิดให้ปรมินทร์ แก้วกัญญาที่เอาเงินไปใช้คืนให้พิพัฒน์ ถูกพิพัฒน์รั้งตัวไว้จึงไปถึงงานสาย ปรมินทร์พอรู้ว่าแก้วกัญญามาสายเพราะไปพบพิพัฒน์ พอมาถึงนุติก็คอยเอาใจ ก็ยิ่งโกรธด่าประชดจนปรมินทร์ทะเลาะกับแก้วกัญญากลางงาน แล้วอยู่ๆเพลงที่ปรมินทร์เคยบอกกับแก้วกัญญาว่าเป็นเพลงของแก้วกัญญาก็ดังขึ้น ทั้งคู่หยุดชะงัก อึ้งกันไปทันที แก้วกัญญาเป็นฝ่ายทนไม่ไหว เดินหนีออกจากงาน ปรมินทร์ฉุนขาดตามไปยื้อยุดที่หน้าร้าน ปรมินทร์ต่อว่าแก้วกัญญาที่เอาแต่เดินหนี แก้วกัญญาร้องไห้บอกว่าเธอเหนื่อยเกินกว่าจะต่อสู้อะไรอีกแล้ว และขอร้องให้ปรมินทร์ลืมทุกอย่างในอดีตให้หมด เพราะเธอเองก็จะลืมให้หมดเช่นกัน วรรณอรที่กำลังมาที่งานเข้ามา เลยทำให้ปรมินทร์จำต้องปล่อยแก้วกัญญากลับบ้านไป คืนนั้นปรมินทร์เสียใจมาก กินเหล้าจนเมามาย วรรณอรพาปรมินทร์ไปส่งคอนโดแล้วทั้งคู่ก็มีอะไรกัน ปรมินทร์ไม่วายเพ้อถึงแก้วกัญญา ทำให้วรรณอรยิ่งเกลียดและสัญญากับตัวเองว่าจะต้องกำจัดแก้วกัญญาไปจากชีวิตให้จงได้ รอยร้าวที่เกิดขึ้นระหว่างปรมินทร์และแก้วกัญญาแผ่ขยายจนคนรอบๆข้างรู้สึกและเริ่มเป็นกังวล ผึ้งปรึกษากับธันวา เพื่อนสนิทของปรมินทร์พยายามหาทางจะประสานรอยร้าวนี้ ทั้งคู่ลงความเห็นว่างานสัมมนาของบริษัทที่กำลังจะจัดขึ้นที่เกาะช้างน่าจะเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ปรมินทร์และแก้วกัญญาหันหน้ามาคุยกันดีๆ แต่ทุกอย่างกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อแก้วกัญญาปฏิเสธที่จะไปสัมนาโดยอ้างว่าแม่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล ปรมินทร์หมั่นไส้เลยเสนอว่าให้แก้วกัญญาพาครอบครัวไปด้วย เพื่อถือเป็นการไถ่โทษที่ปัทมาศทำให้ฟองจันทร์เจ็บ แก้วกัญญาเห็นว่ายังไงก็ต้องไป และการเอาครอบครัวไปด้วยอาจเป็นเหตุผลให้เธอปลีกตัวไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับปรมินทร์จึงยอมตามนั้น วรรณอรยื่นข้อเสนอกับพิพัฒน์ทันทีว่าเธอจะถือโอกาสนี้หลอกล่อแก้วกัญญามาให้พิพัฒน์ เพราะเธอเชื่อว่าถ้าแก้วกัญญาตกเป็นของพิพัฒน์ ปรมินทร์ก็จะเลิกสนใจแก้วกัญญาไปเอง พิพัฒน์อ้างกับปัทมาศว่าต้องไปประชุมงานกับลูกค้า ปัทมาศรู้ทัน แอบพาหนูนิ่มตามไปเซอร์ไพร์สพิพัฒน์ที่โรงแรมที่ทั้งหมดเข้าพักอยู่ด้วยกันแผนการณ์ที่พิพัฒน์กับวรรณอรร่วมกันวางไว้ต้องพังไม่เป็นท่า ด้านพีรวิชญ์ พอรู้ว่าก้องบดินทร์ไปเที่ยวก็ทำเป็นไปเที่ยวแล้วบังเอิญไปเจอกัน ก้องบดินทร์แนะนำพีรวิชญ์ว่าเป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย ฟองจันทร์กับแก้วกัญญาเข้ากับพีรวิชญ์ได้ดี ทุกคนที่บริษัทต่างก็สดใส ร่าเริง มีเพียงปรมินทร์และแก้วกัญญาที่เงียบลงกว่าเดิม เพราะทะเลทำให้ทั้งคู่คิดถึงวันคืนเก่าๆที่เคยวาดฝันอนาคตร่วมกัน วูบหนึ่งปรมินทร์เกือบจะใจอ่อน แก้วกัญญาเองก็เช่นกัน แต่เพราะกลัวว่าปรมินทร์จะรู้ เธอเลยแสร้งทำเย็นชาและไม่รับรู้ความรู้สึกใดๆของปรมินทร์ ปรมินทร์เห็นท่าทีเย็นชานั้นก็ยิ่งฉุน ทำเป็นอี๋อ๋อกับวรรณอรประชด นุติเห็นแก้วกัญญาซึมก็มาถามไถ่คอยเอาใจ ปรมินทร์ก็เริ่มพาล แก้วกัญญาไม่อยากมีเรื่องและไม่อยากเห็นภาพปรมินทณ์กับวรรณอรจึงพยายามเลี่ยงไม่เจอปรมินทร์ แล้วบ่ายวันที่แก้วกัญญาต้องไปทำกิจกรรมกับที่บริษัท พีรวิชญ์ชวนฟองจันทร์และก้องบดินทร์ไปนั่งเรือเล่น โอกาสจึงลอยเข้ามาหาวรรณอรกับพิพัฒน์อย่างไม่คาดฝัน วรรณอรให้พนักงานไปบอกแก้วกัญญาว่าแม่ไปนั่งเรือเที่ยวแล้วเกิดป่วยกระทันหันติดอยู่ที่เกาะ แก้วกัญญาตกใจขอให้โรงแรมพาเธอไปดูอาการแม่ เมื่อเรือออกสู่ทะเล แก้วกัญญาจึงเพิ่งรู้ว่าตนเองถูกหลอก เพราะเรือที่เธอขึ้นมาเป็นเรือของพิพัฒน์ และบนเรือมีเพียงแค่เธอกับพิพัฒน์และคนขับเรือของพิพัฒน์เท่านั้น ปรมินทร์เห็นแก้วกัญญาหายไปก็เที่ยวตามหาแต่ก็ไม่พบ ปัทมาศที่ถูกพิพัฒน์หลอกให้กินยาคลายประสาทจนหลับถูกหนูนิ่มปลุกให้ลุกมาเล่นด้วย เมื่อตื่นขึ้นมาปัทมาศจึงรู้ว่าพิพัฒน์หายไป และแก้วกัญญาก็หายไปด้วย ปัทมาศรีบบอกปรมินทร์ ปรมินทร์ให้คนตามหาพิพัฒน์จนรู้ว่าเรือของพิพัฒน์หายไป ปรมินทร์รีบเอาเรือเร็วออกตามหา วรรณอรพยายามรั้งไว้แต่ก็ไม่เป็นผล ขณะที่แก้วกัญญาเกือบจะพลาดตกเป็นของพิพัฒน์ ปรมินทร์ก็เอาเรือมาเทียบแล้วชกพิพัฒน์จนสลบ ปรมินทร์ลากพาแก้วกัญญาลงเรือเล็ก แต่แทนที่จะพากลับโรงแรม ปรมินทร์กลับพาแก้วกัญญาไปที่เกาะเล็กๆ เขาทั้งหึงและโกรธจนขาดสติ ทั้งต่อว่าและแกล้งจะปล้ำแก้วกัญญา แก้วกัญญาตกใจกลัว วิ่งหนีจนตกทะเล ปรมินทร์รู้ว่าแก้วกัญญาว่ายน้ำไม่เป็นก็รีบกระโดดลงไปช่วย แก้วกัญญาหมดสติ ปรมินทร์จึงได้สติและพาแก้วกัญญากลับมาที่โรงแรม ด้านพิพัฒน์เมื่อฟื้นขึ้นก็เจอวรรณอรที่แอบเอาเรือเล็กตามออกมาดูผล พอรู้ว่าทุกอย่างกลับตาลปัตร วรรณอรก็ต่อว่าพิพัฒน์สาดเสียเทเสีย พิพัฒน์ที่หัวเสียจากการพลาดจากแก้วกัญญาจึงเลือดขึ้นหน้า ปล้ำวรรณอร วรรณอรสู้แรงพิพัฒน์ไม่ได้ ตกเป็นของพิพัฒน์ วรรณอรทั้งแค้นทั้งเสียใจ โยนความผิดที่ตนเองต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายนี้ว่าเป็นเพราะแก้วกัญญา ผึ้งและธันวาที่ช่วยกันออกตามหาแก้วกัญญาไปพบพีรวิชญ์อยู่กับก้องบดินทร์ ทั้งคู่แสดงกิริยาสนิทสนมกันเกินกว่าเพื่อน ผึ้งและธันวาอึ้งไปกับภาพที่เห็น สองคนตกลงกันว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ กลับจากทะเล แก้วกัญญาไม่ยอมคุยหรืออยู่กับปรมินทร์สองต่อสองอีกเลย ปรมินทร์ยิ่งหมั่นไส้ หาเรื่องแกล้งปล้ำแก้วกัญญาอยู่บ่อยๆ แก้วกัญญาทั้งโกรธและเสียใจเพราะปรมินทร์ทำเหมือนเธอเป็นของเล่นของเขา ปัทมาศยังปักใจเชื่อว่าวันนั้นพิพัฒน์หายไปพร้อมกับแก้วกัญญา ปรมินทร์พยายามบอกว่าแก้วกัญญาอยู่กับตนเอง ปัทมาศก็ไม่ยอมเชื่อ เธอเริ่มมีอาการหลอนขึ้นเรื่อยๆจนลืมดูแลหนูนิ่ม ปล่อยให้นอนเปิดหน้าต่างจนฝนสาด หนูนิ่มเป็นปอดบวมต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แก้วกัญญารู้ข่าวก็เป็นห่วงและอยากจะไปเยี่ยม ปรมินทร์สงสารเพราะรู้ว่าหนูนิ่มเองก็เอาแต่เพ้อหาแม่แก้ว เลยเสนอว่าจะแอบพาแก้วกัญญาไปเยี่ยมหนูนิ่มในวันที่ปัทมาศต้องไปคุยกับจิตแพทย์ตามนัด ขณะที่ปรมินทร์ปล่อยให้แก้วกัญญาอยู่กับหนูนิ่มสองต่อสอง ตัวเองก็ออกมาดูลาดเลาที่หน้าห้อง วรรณอรที่ถูกพิพัฒน์นัดให้มาเจอเข้ามาเห็นปรมินทร์ ต่างคนต่างตกใจ แต่วรรณอรรีบอ้างว่าเธอรู้ว่าปรมินทร์มาที่นี่เลยตามมา ปรมินทร์กลัวว่าวรรณอรจะเอาเรื่องแก้วกัญญามาเยี่ยมหนูนิ่มไปบอกปัทมาศ จึงชวนวรรณอรลงไปหาอะไรทาน พอสองคนออกไป พิพัฒน์ที่นัดวรรณอรไว้ก็มาถึง เมื่อเข้าไปในห้องจึงพบกับแก้วกัญญา แก้วกัญญาทั้งกลัวและขยะแขยงพิพัฒน์ รีบลาหนูนิ่มแล้วออกมา พิพัฒน์รีบตามไปพยายามอธิบายว่าเรื่องบนเรือเขาไม่ได้ตั้งใจ แก้วกัญญาไม่ฟัง พิพัฒน์พยายามจะจับตัวแก้วกัญญาไว้ ปรมินทร์เข้ามาเห็นพอดี ก็กระชากแก้วกัญญากลับขึ้นรถ โดยไม่สนใจว่าแก้วกัญญาจะเจ็บตัวแค่ไหน
ผึ้งแอบสืบเรื่องก้องบดินทร์จนรู้ว่าพีรวิชญ์เป็นน้องของพิพัฒน์ ผึ้งเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้แก้วกัญญาฟัง แก้วกัญญาจึงตามไปจะคุยกับก้องบดินทร์ที่โรงพยาบาล แต่ไปพบก้องบดินทร์นั่งรถไปคอนโดพีรวิชญ์ แก้วกัญญาตัดสินใจเข้าไปคุยกับทั้งคู่ แล้วขอให้พีรวิชญ์เลิกยุ่งเกี่ยวกับก้องบดินทร์ ก้องบดินทร์ตัดพ้อแก้วกัญญาว่ากำลังทำเหมือนกับที่แม่บังคับให้แก้วกัญญาเลิกกับปรมินทร์ พีรวิชญ์พยายามอธิบายว่าเขากับก้องบดินทร์คบหากันด้วยความจริงใจ แก้วกัญญาสงสารน้อง แต่ก็ทำใจยอมรับไม่ได้ เธอขอแค่อย่าให้แม่รู้เรื่อง ปัทมาศเริ่มจับสังเกตได้ว่าพิพัฒน์มีคนอื่นแน่ๆ เธอสงสัยแก้วกัญญาจึงบอกปรมินทร์ให้ช่วยกันจับตาดูทั้งคู่ ปรมินทร์หันไปจับผิดแก้วกัญญากับพิพัฒน์ จนลืมสังเกตวรรณอร แท้จริงแล้วคนที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพิพัฒน์ก็คือวรรณอรนั่นเอง แก้วกัญญาที่มีปัญหากับก้องบดินทร์ เพราะก้องบดินทร์น้อยใจพี่สาวและไม่ยอมกลับบ้าน จนแก้วกัญญาต้องออกไปตามหลายครั้งก็ถูกปรมินทร์ถามว่าเธอหายไปไหนบ่อยๆ แก้วกัญญาไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริง ทำให้ปรมินทร์เริ่มเอนเอียงว่าสิ่งที่ปัทมาศสงสัยอาจจะเป็นจริง ปัทมาศแอบตามพิพัฒน์ไปจนเกือบจะจับได้ว่าอยู่กับวรรณอร แต่วรรณอรกับพิพัฒน์ใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกปัทมาศให้เข้าใจไปว่า คนที่พิพัฒน์นัดคือแก้วกัญญา ปัทมาศโกรธจะเอาปืนไปยิงแก้วกัญญา พิพัฒน์รีบห้ามไว้ ปัทมาศกรีดร้อง อาละวาด พิพัฒน์จึงรีบพาส่งโรงพบาล จิตแพทย์แนะนำให้ปัทมาศเข้ารับการรักษาตัวอย่างจริงจัง พิพัฒน์เห็นเป็นโอกาสดีจึงยอมให้โรงพยาบาลเอาตัวปัทมาศไว้ เมื่อปรมินทร์รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ปัทมาศต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลบ้าก็โกรธ เขาแกล้งให้แก้วกัญญามาเอาเอกสารที่คอนโดแล้วตามเข้ามา ปรมินทร์คาดคั้นแก้วกัญญาว่ามีอะไรกับพิพัฒน์ใช่ไหม? แก้วกัญญาปฏิเสธ ปรมินทร์หึงขึ้นหน้าไม่ยอมเชื่อ หาว่าแก้วกัญญาให้ท่าพิพัฒน์แต่กับเขาทำเป็นรังเกียจ แก้วกัญญาเลยประชดใส่ว่าเธอให้ท่าทุกคน ยกเว้นปรมินทร์ ปรมินทร์ขาดสติปล้ำแก้วกัญญา จนแก้วกัญญาตกเป็นของปรมินทร์
หลังจากได้แก้วกัญญา ปรมินทร์ก็เพิ่งรู้ตัวว่าเขายังรักแก้วกัญญาอยู่เต็มหัวใจ แต่แก้วกัญญากลับพูดใส่หน้าปรมินทร์ว่าเธอจะไม่มีวันอภัยให้เขา วันรุ่งขึ้นแก้วกัญญาไม่มาทำงาน ปรมินทร์โทรไปก็ไม่ยอมรับสาย เขาเลยไปถามผึ้ง ผึ้งเล่าเรื่องแก้วกัญญามีปัญหากับก้องบดินทร์ให้ปรมินทร์ฟัง ปรมินทร์จึงรู้ว่าตัวเองเข้าใจแก้วกัญญาผิด เขาพยายามง้อแก้วกัญญาต่างๆนานา ทั้งเอาแจกันดอกแก้วไปวางที่โต๊ะทำงานแก้วกัญญา แต่แก้วกัญญาก็โยนลงถังขยะอย่างไม่ใยดี ทั้งให้ผึ้งกับธันวาช่วยวางแผนให้ง้อ แต่แก้วกัญญาก็ไม่ใจอ่อน ทั้งหาเรื่องไปหาแก้วกัญญาที่บ้าน โดยอ้างว่ามาเยี่ยมฟองจันทร์ แก้วกัญญาก็ไม่ยอมเปิดประตูรับ ฟองจันทร์ถามว่ามีเรื่องอะไรกัน แก้วกัญญาก็ไม่ยอมบอก ออกไปด่าไล่ปรมินทร์ ปรมินทร์ไม่ยอมกลับ ยืนตากฝนรออยู่ที่หน้าบ้านจนดึกดื่นค่อนคืน แก้วกัญญาที่หลบอยู่ในบ้านเสียใจแต่พยายามบอกตัวเองไม่ให้ใจอ่อน ฟองจันทร์เห็นความพยายามของปรมินทร์ และเห็นอาการของแก้วกัญญาที่เป็นทุกข์ จึงเข้าไปคุยกับแก้วกัญญา ฟองจันทร์บอกว่าบางทีการที่เธอห้ามไม่ให้แก้วกัญญาคบกับปรมินทร์อาจเป็นเรื่องผิด ฟองจันทร์ขอโทษแก้วกัญญา แก้วกัญญากอดแม่ร้องไห้ แล้วเธอก็ออกมาบอกปรมินทร์ให้กลับบ้าน มีอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้ วันรุ่งขึ้น แจกันดอกแก้วที่ปรมินทร์เพียรเอามาวางง้อแก้วกัญญายังคงวางอยู่บนโต๊ะทำงาน ไม่ได้ถูกทิ้งลงขยะเหมือนทุกวัน ปรมินทร์ดีใจ รู้ว่าแก้วกัญญาให้โอกาสเขาแล้ว ก้องบดินทร์ที่ยังไม่ยอมคืนดีกับแก้วกัญญา ก็เริ่มไปอยู่ที่คอนโดของพีรวิชญ์บ่อยๆ พิพัฒน์ที่พาวรรณอรไปนอนที่นั่นเห็นพีรวิชญ์อยู่กับก้องบดินทร์ก็เรียกพีรวิชญ์ไปคุย พีรวิชญ์ไม่แคร์ บอกพิพัฒน์ว่าเขาคบกับก้องบดินทร์ พิพัฒน์โกรธซ้อมพีรวิชญ์ ขังไว้ที่คอนโด แล้วไล่ก้องบดินทร์ไป พีรวิชญ์แอบนัดกับก้องบดินทร์ว่าจะหนีออกไป วันที่ก้องบดินทร์มารอรับพีรวิชญ์ พิพัฒน์จับได้เสียก่อน พอเห็นสองคนอยู่ด้วยกัน พิพัฒน์ก็โกรธขับรถจะชนทั้งคู่ วินาทีสุดท้ายก้องบดินทร์ผลักพีรวิชญ์ออก ตัวเองเลยโดนชนเต็มๆ พิพัฒน์ขับรถหนีไป ผลของอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ก้องบดินทร์ตาบอด แก้วกัญญา และฟองจันทร์เสียใจมาก ก้องบดินทร์เองก็เช่นกัน เขาร้องไห้ขอโทษที่ไม่เชื่อแก้วกัญญาจนทุกอย่างเป็นแบบนี้ พี่น้องกลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง ตำรวจมาถามก้องบดินทร์ถึงรถที่ชน ก้องบดินทร์ไม่อยากให้พีรวิชญ์เดือดร้อนจึงไม่ยอมบอกว่าเป็นพิพัฒน์ เมื่อพีรวิชญ์มาเยี่ยม ก้องบดินทร์ก็ไม่ยอมให้พบ พีรวิชญ์ไม่เข้าใจโทรมาหา ก้องบดินทร์จึงบอกเลิกกับพีรวิชญ์ โดยอ้างว่าเขาทนอยู่กับปัญหาต่อไปไม่ได้แล้ว พีรวิชญ์ไม่เชื่อ และไม่ยอมเลิก ก้องบดินทร์ตัดใจไม่ติดต่อพีรวิชญ์อีก แก้วกัญญาถามน้องถึงสาเหตุที่ทำแบบนี้ ก้องบดินทร์ยอมรับว่าเขายังรักพีรวิชญ์ แต่ไม่อยากให้พีรวิชญ์ต้องมาลำบากดูแลตัวเองที่ตาบอด แก้วกัญญาเป็นทุกข์กับเรื่องก้องบดินทร์ ปรมินทร์ยืนยันว่าเขาจะอยู่เคียงข้างแก้วกัญญา ทั้งคู่รู้สึกว่าวันคืนเก่าๆกำลังจะหวนกลับมา แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องพังทลายลงเมื่อวรรณอรรู้ตัวว่าท้องกับพิพัฒน์ แต่พิพัฒน์ไม่ยอมรับผิดชอบ แถมยังแนะนำวรรณอรให้ใช้เรื่องตั้งท้องมัดตัวปรมินทร์ วรรณอรตัดสินใจบอก วไลกรเรื่องท้องกับปรมินทร์ วไลกรจึงยื่นคำขาดให้ปรมินทร์รับผิดชอบ ปรมินทร์แทบล้มทั้งยืน แก้วกัญญาทั้งเสียใจ ทั้งโกรธตัวเองที่ไปสร้างฝันกับปรมินทร์แล้วถูกเขาพังลงกับตา เธอคิดว่านี่คงเป็นการแก้แค้นจากเขา ดังนั้นไม่ว่าปรมินทร์จะพยายามอธิบายยังไง แก้วกัญญาก็ไม่ฟังอีกต่อไป เธอตัดสินใจหันหลังให้ปรมินทร์อีกครั้ง โดยยื่นใบลาออก ปรมินทร์พาหนูนิ่มไปช่วยง้อแก้วกัญญา หนูนิ่มจับแก้วกัญญากับปรมินทร์มาเกี่ยวก้อยแล้วบอกให้พ่อปอกับแม่แก้วคืนดีกัน แก้วกัญญายอมทำตาม แต่ลับหลังเธอกลับบอกปรมินทร์ว่า “อย่าหนีปัญหา แล้วรับผิดชอบ ในสิ่งที่ตัวเองทำ” ปรมินทร์อึ้งไปเพราะนั่นคือคำพูดที่เขาเพียรประชดใส่แก้วกัญญามาตลอด แก้วกัญญาออกจากงานมาช่วยแม่รับจ้างเย็บผ้าอยู่บ้าน เพื่อจะได้ดูแลน้องที่ตาบอดและแม่ที่ป่วยได้สะดวก พีรวิชญ์แอบมาที่บ้านแล้วขอร้องแก้วกัญญาให้เขาได้พบก้องบดินทร์ แก้วกัญญาใจอ่อน พีรวิชญ์เข้าไปเห็นจึงเพิ่งรู้ว่าก้องบดินทร์ตาบอด ก้องบดินทร์คิดว่าพีรวิชญ์เป็นคนที่แก้วกัญญาจ้างมาช่วยดูแล พีรวิชญ์ไม่ยอมบอกให้ก้องบดินทร์รู้ว่าเป็นตนเองเพื่อจะได้มีโอกาสดูแลก้องบดินทร์
ปรมินทร์ยอมให้วรรณอรจัดการเรื่องการแต่งงานของเขากับเธอ วรรณอรดีใจ แกล้งไปจ้างแก้วกัญญาให้เย็บชุดเลี้ยงพระ ปรมินทร์โกรธมาก จะไม่ยอมให้แก้วกัญญาทำ แต่แก้วกัญญายอมรับงานเพราะต้องการเงินมารักษาแม่กับน้อง ระหว่างที่เย็บชุดให้วรรณอร แก้วกัญญาก็ร้องไห้เสียใจกับความรักและโชคชะตาของตนเองไปด้วย และแล้วก้องบดินทร์ก็จับได้ว่าคนที่มาดูแลอยู่ตลอดเวลาก็คือพีรวิชญ์ ทั้งคู่ทะเลาะกัน ก้องบดินทร์ไล่พีรวิชญ์ แต่พีรวิชญ์ไม่ยอมไป ฟองจันทร์ได้ยินจึงรู้ความจริง ก้องบดินทร์ร้องไห้ขอโทษแม่แล้วสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพีรวิชญ์ แล้วฟองจันทร์ที่เห็นความดีของพีรวิชญ์มาตลอดก็ยอมแพ้ในความรักแท้ของทั้งคู่ เธอยอมให้ทั้งคู่คบกัน ด้านวรรณอรก็ยังเพียรตามมาแกล้งจู้จี้เรื่องชุด เพื่อแกล้งแก้วกัญญา จนฟองจันทร์ทนสงสารลูกไม่ไหว บอกให้แก้วกัญญาพาครอบครัวย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด สามคนแม่ลูกเห็นด้วย กอดกันร้องไห้ที่ครอบครัวต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ แล้วหนูนิ่มที่ไม่มีคนดูแลก็ล้มป่วยอีกครั้ง แก้วกัญญาแอบไปเยี่ยมหนูนิ่มถึงที่บ้านพิพัฒน์เพื่อจะบอกลา แต่เมื่อเห็นความดีใจของหนูนิ่ม แก้วกัญญาก็พูดไม่ออก เลยคิดจะกดอัดเสียงไว้ในตุ๊กตาที่เคยซื้อให้ แต่อยู่ๆวรรณอรกับพิพัฒน์ก็ทะเลาะกันเข้ามา แก้วกัญญาวางตุ๊กตาไว้แล้วรีบหลบออกไปที่ระเบียงห้อง โดยไม่รู้ว่าตุ๊กตาได้อัดเสียงที่วรรณอรและพิพัฒน์ทะเลาะกันเรื่องที่วรรณอรหวาดระแวงกลัวว่าจะมีใครล่วงรู้ความลับที่เธอไม่ได้ท้องกับปรมินทร์ แต่ท้องกับพิพัฒน์ พิพัฒน์ต้องทั้งขู่ทั้งปลอบว่า “เรื่องเธอท้องกับเขาไม่มีใครรู้ แล้วเขากับปรมินทร์ก็มีเลือดกรุ๊ปเดียวกัน ถ้าไม่มีใครอุตริเอาดีเอ็นเอไปตรวจ รับรองว่าไม่มีใครรู้ความจริงแน่นอน” วรรณอรจึงค่อยวางใจ แก้วกัญญาที่ชักสงสัยว่าสองคนคุยอะไรกัน ก็พยายามจะเข้าไปแอบฟังแต่เผลอเหยียบกระถางต้นไม้เกิดเสียงดัง พิพัฒน์กับวรรณอรจึงเห็นแก้วกัญญา สองคนระแวงว่าแก้วกัญญาจะได้ยินเรื่องที่คุยกันจึงคาดคั้นถาม สุดท้ายแก้วกัญญาถูกวรรณอรตบ แล้วล้มไปกระแทกกับขอบระเบียงจนสลบไป หนูนิ่มที่เข้ามาเห็นก็รีบเข้ามาจะช่วยแก้วกัญญา พิพัฒน์จะปัดหนูนิ่มไม่ให้มายุ่งแต่พลาดทำหนูนิ่มตกระเบียงชั้นสองจนแน่นิ่งไป พิพัฒน์กับวรรณอรรีบหนี เมื่อปรมินทร์มาพบก็รีบพาหนูนิ่มไปโรงพยาบาล แก้วกัญญาเพิ่งฟื้นได้สติ ไม่รู้เรื่องอะไร ถูกตำรวจสอบสวนก็ให้การไม่ถูก เลยกลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนทำร้ายหนูนิ่ม หนูนิ่มอาการโคม่า หมออนุญาตให้ปัทมาศออกจากโรงพยาบาลไปดูลูก ก่อนจะสิ้นใจหนูนิ่มจับมือปรมินทร์กับแก้วกัญญามาเกี่ยวก้อยกันแล้วขอให้ทั้งคู่รักกัน แล้วหนูนิ่มก็สิ้นใจ ปัทมาศร้องไห้แทบขาดใจ ปรมินทร์กับแก้วกัญญากอดกันร้องไห้ แต่สักครู่แก้วกัญญาก็เป็นฝ่ายได้สติผละออกมาก่อน ปรมินทร์ขอเลื่อนงานแต่งงานกับวรรณอร แต่วรรณอรอ้างว่ากลัวท้องจะโตจนคนรู้ จึงไม่ยอมให้เลื่อน ที่งานศพหนูนิ่ม ปัทมาศเอาตำรวจมาจับแก้วกัญญาเข้าคุกข้อหาฆ่าหนูนิ่ม ฟองจันทร์รู้ข่าวก็เสียใจเข้าโรงพยาบาล แก้วกัญญาหมดหนทาง ปัทมาศยื่นคำขาดไม่ให้ปรมินทร์เข้าไปช่วยแก้วกัญญา แต่ปรมินทร์ก็แอบช่วยทั้งเรื่องทนายและเรื่องค่ารักษาของแม่ ปัทมาศรู้ก็โกรธ บอกให้วรรณอรรีบเร่งการแต่งงาน คืนก่อนแต่งงานปรมินทร์แอบไปเยี่ยมแก้วกัญญา สองคนเกาะลูกกรงห้องขังบอกลากันทั้งน้ำตา วันงานแต่งงานของปรมินทร์กับวรรณอร แก้วกัญญาได้รับการปล่อยตัวเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ปัทมาศรู้ข่าวก็โกรธ นัดให้แก้วกัญญามาหาที่บ้าน โดยอ้างว่าต้องการปรับความเข้าใจ แก้วกัญญามาตามนัด แล้วพบว่าปัทมาศตั้งใจจะฆ่าแก้วกัญญาชดใช้ให้กับชีวิตของหนูนิ่ม แก้วกัญญาเข้าแย่งปืน แล้วตุ๊กตาที่อัดเสียงเหตุการณ์ทุกอย่างก็กระเด็นตก ปุ่มเพลย์ถูกกกระแทก เสียงที่อัดเหตุการณ์วันที่หนูนิ่มตายดังขึ้น ทำให้ทั้งปัทมาศและแก้วกัญญารู้ความจริง ปัทมาศเสียใจมากที่โดนพิพัฒน์และวรรณอรหลอกมาตลอด เธอออกจากบ้านไปพร้อมกับปืน แก้วกัญญารีบตามไป ที่งานแต่งงานของปรมินทร์กับวรรณอร ปัทมาศที่คลุ้มคลั่งตามมาแฉวรรณอรกับพิพัฒน์ พอปัทมาศจะยิง พิพัฒน์ก็เอาวรรณอรมาบัง ปัทมาศไม่ยอม ตามเข้าไปยิงพิพัฒน์จนเสียชีวิต แล้วยิงตัวเองตายตามไปด้วย พรรรอรถูกพาส่งโรงพยาบาลและแท้งลูกในเวลาต่อมา เมื่อผ่านงานศพของปัทมาศและพิพัฒน์ แก้วกัญญาก็หายตัวไปพร้อมกับฟองจันทร์และก้องบดินทร์ ปรมินทร์พยายามตามหา จนได้เบาะแสจากนุติที่ได้ที่อยู่แก้วกัญญาจากโรงพยาบาลที่ก้องบดินทร์ติดต่อเรื่องการบริจาคดวงตาเอาไว้ ก้องบดินทร์ได้รับการผ่าตัดดวงตาจนมองเห็น โดยมีพีรวิชญ์คอยอยู่เคียงข้าง นุติทำใจยอมรับว่าแก้วกัญญาคงไม่มีวันรักตนเองได้ โดยมีผึ้งคอยเป็นกำลังใจ ปรมินทร์ตามไปง้อแก้วกัญญา แต่แก้วกัญญาก็ใจแข็งเพราะกลัวจะผิดหวังอีก สุดท้ายปรมินทร์ถอดใจและได้มอบตุ๊กตาที่เขาอัดเสียงบอกแก้วกัญญาไว้ว่าเขารักแก้วกัญญามากเพียงใด นั่นทำให้แก้วกัญญาใจอ่อนยอมอภัยให้ปรมินทร์ ทั้งคู่สัญญากันว่า “ต่อไปไม่ว่ามีเรื่องอะไร จะไม่มีวันทิ้งกัน” แก้วกัญญาร้องไห้กอดปรมินทร์ เธอสัญญาว่าต่อไปจะไม่หนีปัญหาเหมือนที่ผ่านๆมาอีก ปรมินทร์เองก็สัญญาว่าเขาจะรักแก้วกัญญาตลอดไป ไม่ว่าวันนี้หรือ... “พรุ่งนี้ก็รักเธอ”....

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

4 ท่าบริหารป้องกัน ปวด จากการใช้คอมพิวเตอร์

1. ท่าบริหารและผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลัง ท่านี้ควรให้เด็ก ๆ ยืนหรือนั่งให้หลังตรง แล้วเหยียดแขนทั้งสองข้างขึ้นด้านบน ประสานมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน แล้วหงายมือออก

2. ท่าบริหารกล้ามเนื้อแขน ให้เหยียดแขนทั้งสองข้างออกไปข้างหน้าโดยให้มือประสานกัน

3. ท่าบริหารกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณนิ้วมือ โดยยืดแขนออกไปข้างหน้า โดยให้มือชี้ลง พร้อมทั้งดัดนิ้วมือไปทางด้านหลัง โดยให้ทำสลับกันทั้งซ้ายและขวา อย่างน้อย 20 วิน

4. ท่าบริหารกล้ามเนื้อบริเวณคอ โดยการยืนตัวตรง เอามือซ้ายจับบนศีรษะด้านขวา พร้อมโน้มคอไปทางด้านเดียวกับที่มือจับศีรษะอยู่ ทำสลับไปมา ซ้ายขวา

ไมโครซอฟท์ พร้อมเปิดตัว วินโดวส์ 7 แล้ว

ยุติการรอคอยเมื่อระบบปฏิบัติการตัวใหม่ล่าสุดของไมโครซอฟท์ เตรียมถูกนำออกวางจำหน่ายทั่วโลกในวันนี้ (22 ต.ค.) เมื่อไทยขายจริง 31 ต.ค.52

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วันนี้ (22 ต.ค.) บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศถึงการเปิดตัวระบบปฏิบัติการล่าสุด วินโดวส์ 7 (windows7) โดยหวังว่า ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 7 จะได้รับเสียงตอบรับจากผู้ใช้ในทางบวกมากกว่าระบบปฏิบัติการตัวก่อนหน้านี้ หรือ วินโดวส์ วิสตา (Windows Vista) ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ในเรื่องของการใช้งานที่ไม่สะดวกมากนัก โดยผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต่างตอบรับระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 7 เป็นอย่างดี

รายงานข่าวแจ้งว่า ผลการตอบรับดังกล่าวเห็นได้จาก มีคำสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์อเมซอน (www.amazon.com) มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ใน ทางบวกที่ออกมา เช่น การใช้งานที่ง่าย ไม่พบอาการระบบรวนมากนัก รวมถึงไม่จำเป็นต้องติดตั้งไดรเวอร์ของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น กล้องถ่ายรูป ปรินเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ ทำให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ได้สะดวกรวดเร็ว

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เชิญชวนผู้บริโภคในประเทศไทย ร่วมลุ้นเป็น 1 ใน 777 คนแรกที่จะเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ windows7 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดจากไมโครซอฟท์ ในราคาพิเศษครั้งแรกเพียง 2,777 บาท กับเวอร์ชั่น Home Premium ก่อนเปิดตัวจริงทั่วโลก 22 ต.ค. 2552 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยวันที่ 31 ต.ค.นี้ เพียงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.windows7thailand.com และนำเอกสารยืนยันการลงทะเบียนมาแสดงสิทธิ์ในงานวันเปิดตัววินโดวส์ 7 อย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันที่ 31 ต.ค. 2552 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 โดยต้องเป็น 1 ใน 777 คนแรกที่นำใบลงทะเบียนมายืนยันสิทธิ์ภายในงานตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป

ระบุยอดอาหารช่วยบำรุงสติปัญญา จุดประกายให้กับสมอง

การศึกษาจากต่างประเทศ พบว่าการรับประทาน ผลบลูเบอรี่ ไข่ มัสตาร์ดปลาแซลมอน และผักเคล จะช่วยบำรุงเพราะไปกระตุ่นเซลล์ประสาทชะลอโรคสมองเสื่อม...

รายงานการศึกษาระหว่างประเทศ ได้พบว่าอาหาร 5 ชนิดมีคุณประโยชน์ ช่วยจุดประกายความคิดให้กับสมองของเราได้ 5 ชนิด

ผลบลูเบอรี่ ส่วนผสมในผลไม้ชนิดนี้ มีสรรพคุณป้องกันขบวนการ ที่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อม และยังชะลอสมองไม่ให้แก่ชราลงเร็วด้วย

ไข่ อาหารเช้าชนิดนี้ อุดมด้วยเซเลเนียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุช่วยบำรุงสมอง ให้คงหนุ่มสาวอยู่เสมอได้นานแรมปี

มัสตาร์ด สิ่งที่ทำให้มันมีคุณสมบัติอันน่าทึ่ง อยู่ที่หัวขมิ้นชัน ซึ่งได้บริโภควันละ 17 มิลลิกรัม หรือเท่ากับกินมัสตาร์ดวันละ 1 ช้อนชา จะไปช่วยปลุกยีนซึ่งควบคุมการกำจัดขยะของเซลล์ในสมอง ให้แข็งขันขึ้น

ปลาแซลมอน ปลาเนื้อสีชมพูนี้อุดมด้วยกรดไขมันโอเมกา-3 ชนิดที่เชื่อว่ามีสรรพคุณต่อต้านความแก่ชราของสมองมากที่สุด

ผักเคล อันเป็นกะหล่ำปลีชนิดหนึ่ง ถ้าหากได้กินผักใบดกนี้อย่างน้อยวันละ 3 มื้อ สารคาโรทีนอยด์และฟลาโวนอยด์ที่มีอยู่ในผัก จะช่วยชะลอสมองเสื่อมเพราะความแก่ชราให้ช้าลง.

ข้าวกล้องป้องความดันโลหิต ให้คุณแก่ร่างกายมากกว่าข้าวขัดขาว

โรงเรียนสาธารณสุขศาสตร์ของฮาวาร์ดได้ศึกษาพบว่า หากบริโภคข้าวกล้องมากๆ จะทำให้ป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้..

วารสารวิชาการ "โภชนศาสตร์คลินิก" ของ สหรัฐฯรายงานว่า โรงเรียนสาธารณสุขศาสตร์ของฮาวาร์ดได้ศึกษาพบว่า หากบริโภคข้าวกล้องมากๆ จะทำให้ป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้

คณะนักวิจัยของ ดร.อลัน เจ.ฟลินท์ ได้พบว่า ผู้ชายคนที่กินข้าวกล้องมากที่สุด ในการทดลองจะหนีโรคได้มากกว่าคนที่กินน้อยที่สุด

มากถึงร้อยละ 19 หากแต่ยังไม่ค่อยได้ข้อมูลที่แสดงว่า ข้าวกล้องจะให้คุณกับการบำรุงสุขภาพของหัวใจผู้ชายอย่างไร แพทย์อลันได้ชี้ว่า ข้าวกล้องยังคงมีส่วนที่เป็นรำและแร่ธาตุมูลฐาน จึงอุดมด้วยสารอาหารชนิดต่างๆยิ่งกว่าข้าวขัดขาว ทางการอเมริกันได้เคยออกคำแนะนำประชาชนเมื่อเร็วๆนี้ ควรจะบริโภคข้าวกล้องกันอย่างต่ำเป็นปริมาณวันละ 85 กรัม

ผลการศึกษาก็ได้ส่อเช่นเดียวกันว่า ผู้หญิงที่กินข้าวกล้องมาก ก็จะไม่ค่อยเป็นความดันโลหิตสูงเช่นกัน.


ข้อควรรู้เกี่ยวกับมะเร็ง 11 ประการ

1. ทุกคนมีเซลล์มะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลล์จำพวกนี้จะไม่สามารถตรวจหาพบโดยเครื่องมืออทางการแพทย์จนกว่าจะมีปริมาณเซลล์เป็น 2-3 ร้อยล้านเซลล์ หากไปพบหมอ แล้วหมอบอกว่าคุณไม่มีเซลล์มะเร็งในร่างกายหลังจากการตรวจ นั่นแค่หมายความว่า เครื่องมือทางการพทย์ไม่สามารถตรวจพบเซลล์มะเร็งได้เนื่องจากขนาดของเซลล์มะเร็งยังไม่มากพอ หรือขาดยังไม่ใหญ่พอให้เครื่องมือตรวจเจอ


2. เซลล์มะเร็ง เกิดขึ้นมาก ถึง 6 -10 ครั้ง ใน 1 ช่วงชิวิตของมนุษย์


3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง เซลล์มะเร็งก็จะถูกทำลายเพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งขยายตัว และสร้างก้อนเนื้อร้าย


4. เมื่อคนไข้ ถูกบ่งชี้ว่าเป็นมะเร็ง แสดงให้เห็นว่ามีการขาดสารอาหารบางชนิด หรือ โภชนาการไม่ดี ซึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อม อาหาร หรือปัจจัยอื่นในการดำรงชีวิต


5. การเอาชนะเซลล์มะเร็ง สามาถทำได้โดยการสร้างความแข็งแกร่งให้เซลล์เม็ดเลือดขาว หรือระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย


6. การให้คีโม หรือสารเคมีบางชนิด เป็นทำให้เซลล์มะเร็งถูกทำลายอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็ทำลายเซลล์ที่ดีของร่างกายไปด้วยอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นอาจทำลายระบบของอวัยวะสำคัญไปด้วย เช่น ตับ ไต หัวใจ หรือปอด


7. การฉายรังสี ก็จะทำลายเซลล์มะเร็ง และทำให้เนื่อบางส่วนไหม้ เป็นแผลเป็น และทำลายเซลล์ เนื่อเยื่อที่ดีไปด้วยเช่นกัน


8. โดยทั่วไปแล้ว การให้คีโม หรือการฉายรังสี อาจจะทำให้ขนาดของก้อนเซลล์มะเร็งลดลง แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้มีผลทำลายก้อนเนื่อไปมากกว่านั้น


9. เมื่อร่างกายต้องรับสารพิษจำนวนมาก จากการให้คีโมหรือการฉายแสง ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะถูกทำลายไปด้วย ดังนั้นร่างกาวยก็ง่ายต่อการติดเชื้อ หรือพ่ายแพ้เซลล์มะเร็ง


10. การให้คีโม หรือการฉายแสง อาจเป็สาเหตุให้เซลล์มะเร็ง มีการกลายพันธุ์ หรือดื้อยา ทำให้ยากแก่การทำลาย การผ่าตัด ก็อาจสามารถทำให้ เซลล์มะเร็งกระจายไปยังส่วนอื่น

11. วิธีที่มีประสิทธิภาพที่จะต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง คือ หยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยการหยุดให้อาหารที่เซลล์มะเร็งจำเป็นต้องนำไปใช้

นมวัว กับ นมถั่วเหลือง นมไหนดีกว่ากัน

"ที่เค้าว่านมถั่วเหลืองดีอย่างโน้นอย่างนี้ แถมราคาก็ถูกกว่านมวัว แล้วอย่างนี้เราจะหันมาดื่มนมถั่วเหลืองแทนนมวัวซะเลยจะดีไหม"


คำถามนี้เคยเกิดขึ้นในใจ คุณบ้างรึเปล่า? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยที่ว่านี้กันให้ชัด ๆ เลย


ในเรื่องของโปรตีน ถ้าทำน้ำถั่วเหลืองจากสูตร ถั่วเหลือง 1 ส่วนต่อน้ำ 8 ส่วน จะได้โปรตีนใกล้เคียงกับนมวัว คือ ดื่มนมถั่วเหลือง 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร) จะได้โปรตีน ประมาณ 6 กรัม (นมวัว 1 แก้ว จะได้โปรตีนประมาณ 7 กรัม) แต่คุณภาพโปรตีนในนมวัวมีความสมบูรณ์ของกรดอะมิโนที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีนดีกว่าโปรตีนจากถั่วเหลืองที่มาจากพืช แต่คุณภาพของโปตีนในนมถั่วเหลือง ก็สามารถเสริมให้ดีขึ้นได้ ด้วยการเติมเครื่องต่าง ๆ อย่างที่นิยมกัน เช่น ลูกเดือย สาคู ถั่วแดงลงไป ได้ทั้งความอร่อยแถมคุณค่าของโปรตีนสมบูรณ์ขึ้น


พลังงานที่ได้จากนมวัวจะมีไขมันมากกว่านมถั่วเหลืองถึง 2 เท่า คือนม วัว 1 แก้วจะให้พลังงาน ประมาณ 170 แคลอรี่ ส่วนนมถั่วเหลืองจะให้เพียง 80 แคลอรี่ เท่านั้น แต่คนที่ดื่มนมถั่วเหลืองเติมน้ำตาลมาก จนมีรสหวานกว่านมสดรสหวาน ก็จะได้พลังงานทั้งหมดพอ ๆ กัน แม้ว่านมถั่วเหลืองจะให้แคลเซียมที่น้อยกว่านมวัว แต่ให้ธาตุเหล็กและวิตามินบีหนึ่งที่มากกว่า


เราดื่มนมถั่วเหลืองทดแทนนมวัวไม่ได้ เพราะจะมีแคลเซียมน้อยกว่านมวัวอยู่มาก แต่หากมีการเสริมแคลเซียมลงในนมถั่วเหลือง ก็เท่ากับว่าเสริมคุณค่าทางโภชนาการให้สมบูรณ์มากขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการดื่มนมถั่วเหลืองเป็นอาหารเสริมก็ควรดื่ม วันละ 1-2 แก้ว


หากเป็นนมถั่วเหลืองธรรมดาที่ไม่ได้มีการเสริมแคลเซียม ขอแนะนำให้ดื่มนมวัวบ้างประมาณวันละ 1-2 แก้ว สำหรับผู้ใหญ่ หรือ 2-3 แก้วสำหรับเด็ก เช่นเดียวกับหญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อจะได้แคลเซียมอย่างเพียงพอกับความต้องการของร่างกายในสภาวะนั้น ๆ

ล้างหน้าไม่สะอาดระวังโรค ฝีที่เปลือกตา

ฝีที่เปลือกตา(meibumion) ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการใช้เครื่องสำอาง ที่ไม่ค่อยสะอาด ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกไปอุดตันที่รูขุมขนลามมาเปลือกตาด้านในและเกิดเป็นหนองขึ้น โดยวิธีการรักษานั้นทำได้โดยการให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเจาะหนองที่เปลือกตาออก
จากอาการป่วยดังกล่าวนี้จะเห็นได้ว่า ความสะอาดของเครื่องสำอาง และการทำความสะอาดใบหน้าหลังจากการใช้เครื่องสำอางค์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากเครื่องสำอางไม่สะอาดพอและทำความสะอาดใบหน้าหลังการแต่งหน้าได้ไม่ทั่วถึง ก็อาจจะทำให้เกิดการตกค้างของสารเคมีและเมื่อเกิดการหมักหมมในปริมาณมากก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับผิวหน้าและบริเวณสำคัญ เช่น ดวงตาได

ดังนั้นถ้าต้องแต่งหน้าเป็นประจำก็ควรให้ความสำคัญกับความสะอาดด้วย ควรทำความสะอาดใบหน้าทุกครั้งหลังการแต่งหน้า เลือกคลีนเซอร์ให้เหมาะกับผิว รวมถึงเลือกอายมูฟเวอร์ที่มีความปลอดภัยต่อดวงตาด้วย จำไว้นะคะว่าความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ



อาหารทำร้ายดวงตา

เกร็ดความรู้ คู่ สุขภาพ วันนี้มีเรื่องดีๆ มาฝาก... เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่า อาหารจานโปรด ที่รับประทานกันอยู่ทุกวัน บางครั้งอาจจะเป็นอันตรายต่อ ดวงตา และ สายตา ก็ได้ ว่าแล้วเราไปอ่าน เกร็ดความรู้ คู่ สุขภาพ นี้พร้อมๆ กันดีกว่าค่ะ

อาหารที่รับประทานกันอยู่ทุกวัน บางครั้งอาจจะเป็นอันตรายต่อดวงตาก็ได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาฝากกัน...


นักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยฮิโรซากิ ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการทดลองกับหนูพบว่า หนูที่กินอาหารที่มีปริมาณสารโซเดียมกลูตาเมทซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับผงชูรส มีความสามารถในการมองเห็นลดลงเนื่องจากชั้นเรตินาในดวงตาถูกทำลาย และกิจกรรมการส่งสัญญาณคลื่นไฟฟ้าในเซลล์ประสาทตาลดลง ซึ่งอาจส่งผลเช่นเดียวกันนี้กับมนุษย์


นอกจากนี้ฮิโรชิ โฮกุโร หัวหน้าคณะวิจัยสังเกตว่า สาเหตุที่จำนวนผู้ป่วยโรคต้อหินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจมาจากการนิยมรับประทานอาหารที่ปรุงรสด้วยสารโมโนโซเดียมกลูตาเมท


รู้อย่างนี้แล้วก็อย่ารับประทานผงชูรสมากจนเกินไป จะได้ไม่เสียสุขภาพ

ทำไมมดถึงต้องเดินแล้วเอาหนวดแตะกัน


ที่มดเดินแล้วเอาหนวดแตะกัน นั้นเป็นเพราะว่ามดต้องการสื่อสารกัน

มดสื่อสารกันได้อย่างไร??


เป็นเวลากว่า 30 ปีมาแล้ว ที่นักกีฏวิทยาและนักมดวิทยาได้ศึกษาแมลงสังคมและมด และก็ได้ลงความเห็นว่ามดมีรูปแบบการสื่อสารระหว่างกันทั้งหมด 12 แบบด้วยกันได้แก่

1. การเตือนภัย หรือบอกเหตุอันตราย
2. การดึงดูดความสนใจทั่วไป
3. การบอกตำแหน่งแหล่งอาหารและรัง
4. การช่วยเหลือตัวอ่อนเวลาลอกคราบ
5. การแลกเปลี่ยนหรือแบ่งปันอาหารเหลว
6. การแลกเปลี่ยนอาหารที่เป็นของแข็ง
7. อิทธิพลของกลุ่มที่มีทั้งการสนับสนุนและยับยั้งกิจกรรมที่ให้กระทำ
8. การยอมรับวรรณะของมดร่วมรัง และแบ่งแยกมดพวกที่บาดเจ็บหรือตาย
9. การกำหนดวรรณะโดยมดราชินี
10. การควบคุมการแข่งขันการสืบพันธุ์ของกลุ่ม
11. การกำหนดอาณาเขตของรังและตำแหน่งของรัง
12. การสื่อสารเรื่องเพศ

รูปแบบการสื่อสารเหล่านี้ก็โดยใช้ “สารเคมีในร่างกาย” (หรือที่เราเรียกว่า “ฟีโรโมน”) ที่มีกลิ่นแตกต่างกันไปเป็นหลัก โดยอวัยวะส่วนที่สัมผัสและรับรู้กลิ่นนี้ได้ดีก็คือ “หนวด” นั่นเอง มดจะใช้หนวดในการสื่อสารกัน เราคงคุ้นเคยที่เห็นมดเวลาเจอกัน จะใช้หนวดแตะกัน นั่นคือการสื่อสารกัน พฤติกรรมที่เราเห็นนั้นคือ มันกำลังถ่ายเทอาหารหรือของเหลวให้แก่กัน อาจเป็นตัวหนึ่งให้อีกตัวหนึ่งรับหรือการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน

สารเคมีเปรียบเสมือนกลิ่นประจำตัวที่ทำให้มดสามารถแยกแยะตัวอื่นได้ว่า เป็นมดกลุ่มเดียวกันหรือมาจากต่างกลุ่มกัน กลิ่นของสารเคมียังช่วยให้มันแยกแยะวรรณะได้ คือทำให้มันรู้ว่าพี่น้องมันตัวไหนเป็นมดงาน ตัวไหนเป็นมดเพศผู้ ตัวไหนเป็นมดเพศเมีย หรือตัวไหนเป็นมดราชินี อีกทั้งยังรู้ด้วยว่าตัวอ่อนที่เป็นน้องของมันนั้นอยู่ในระยะไหนแล้ว เพราะถ้าใกล้ลอกคราบมันก็จะมาช่วยด้วย เพราะปกติในรังนั้นก็มืดอยู่แล้ว และการมองเห็นของมดก็ไม่ค่อยดี การสัมผัสโดยรับรู้จากกลิ่นทำให้เป็นการกำหนดพฤติกรรมของมันไปด้วยในตัว

เมื่อมดออกนอกรัง โลกใบใหญ่อันกว้างขวางของมันนั้น มันรับรู้ได้โดยใช้สารเคมีนี้ช่วย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจสิ่งรอบตัว หรือแหล่งอาหาร เมื่อมันพบแล้วมันก็ยังต้องพึ่งเส้นทางจากสารเคมีนั่นเองเพื่อใช้เป็นเส้น ทางกลับรังไปบอกพรรคพวกและเดินเส้นทางเดิมโดยไม่หลงทางเพื่อไปลากอาหารกลับ รัง เราอาจเรียกทางนี้ว่า “เส้นทางมด” ซึ่งก็เป็นเส้นทางของสารเคมีจากตัวมันนั่นเอง

อีกทั้งเมื่อรังของมันถูกคุกคามจากศัตรูภายนอก ก็เป็นสารเคมีนี้อีกนั่นแหละที่มีบทบาท โดยมดราชินีจะเป็นผู้ส่งสัญญาณเตือนภัยออกไปเพื่อให้มดงานทั้งหลายมาปกป้อง เธอและไข่

จะเห็นได้ว่า สารเคมีจากตัวมดนี้ มีบทบาทต่อวิถีชีวิตพวกมันมากทีเดียว

กินข้าวเหนียว สร้างสารอาหารและบำรุงผิวพรรณ

ข้าวเหนียว เป็นธัญพืชที่รองลงมาจากข้าวที่คนเรานิยมรับประทานกัน เพราะให้ความเหนียว ความมัน มีรสชาติที่น่ารับประทาน ความเชื่อของคนโบราณเชื่อว่า ข้าวเหนียวเป็นสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้ ซึ่งมีทั้งข้าวใหม่และข้าว ข้าวใหม่มี คุณสมบัติออกฤทธิ์ร้อน นิยมปลูกในนาลุ่มที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ หรืออาจจะปลูกในที่ดอนก็ได้ที่เรียกว่าข้าวไร่ทางภาคเหนือ

พันธุ์ของข้าวเหนียวมีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ แต่ที่คนส่วนใหญ่เห็นจะมีอยู่สองสี คือ ข้าวเหนียวที่มีสีขาว และข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวที่เก็บเกี่ยวเร็วเม็ดจะแข็งกว่า ข้าวเหนียวที่เก็บเกี่ยวช้า แต่คนโบราณจะนิยมนำข้าวเหนียว ที่เก็บได้ใหม่หลังจากที่สีแล้วไปฝากกัน ซึ่งทำให้ผู้รับรู้สึกว่าเหมือนกับตัวเองได้ทำนาเองและมีความปราบปลื้มใจมาก ถึงแม้ว่าจะมันจะไม่เยอะก็ตาม

การหุงต้มข้าวเหนียวจะทำเช่นเดียวกับข้าวสารไม่ได้ เพราะข้าวเหนียวมีความแน่นมากกว่า ในการหุงต้มจึงนำข้าวเหนียวแช่น้ำเสียก่อน ไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง หากมีความต้องการที่จะใช้ในเวลารวดเร็วใช้น้ำอุ่นแช่ การนำสารส้มเพียงเล็กน้อย มาใส่ลงในข้าวเหนียวขณะที่แช่ จะช่วยให้ข้าวเหนียวขาวสะอาดขึ้น

เราจะเห็นได้ว่าคนภาคอีสานส่วนใหญ่จะนิยมรับประทานข้าวเหนียวกันมากกว่าข้าวเจ้า เพราะข้าวเหนียวรับประทาน แล้วจะรู้สึกอิ่มท้องมากกว่าและอยู่ได้นาน แต่การรับประทานมากเกินไปจะก่อให้เกิดอาการไฟธาตุพิการได้ง่าย ผู้สูงอายุไม่ควรที่จะรับประทานข้าวเหนียวให้มากเพราะจะทำให้ติดคอได้

ข้าวเหนียวสามารถแปรรูปไปเป็นอาหารอื่นได้ ส่วนใหญ่จะทำเป็นขนมมากกว่า เช่นเทศกาลตรุษจีนก็ทำขนมแข่ง เทศกาลออกพรรษาคนในสมัยก่อนก็จะทำข้าวต้มลูกโยน ข้าวต้มผัด ข้าวหลาม ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวนึ่งกิน กับส้มตำ หรืออื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากข้าวเหนียวจะมีประโยชน์ทางด้านอาหารแล้ว ยังมี ประโยชน์ต่อร่างกายด้วย เช่น
- บำรุงร่างกาย
- ช่วยขับลมในร่างกาย
- สร้างสารอาหาร
- เสริมสมรรถภาพกระเพาะอาหาร
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนขึ้น

โดยการ นำข้าวสารแช่ให้นุ่มแล้วโดยปั่นในเครื่องปั่น ผสมกับใบตำลึงอ่อน สัดส่วน 1 ต่อ 1 นำมาพอกกับผิวหน้า ผิวกายทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นช่วยลดริ้วรอยจุดด่างดำ ให้ค่อยๆ จางหายไป ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้งไม่ว่าจะ เป็นข้าวเหนียวหรือข้าวเจ้าก็มีประโยชน์กับร่างกายเหมือนกัน ถ้าเรารู้จักถึงคุณค่าและรู้จักที่จะนำไปแปรรูปให้เกิดประโยชน์ต่อไป

เคล็ดลับน่ารู้ เปลือกไข่ทำให้ผ้าขาว

เปลือกไข่...ช่วยให้ผ้าขาว

ผ้าสีขาว เมื่อใช้ไปนานๆ แล้วคุณจะพบว่าผ้าจะกลายเป็นสีเหลืองอ่อนทำให้ดูเก่า ไม่น่าใส่ วิธีง่ายๆในการซักเพื่อให้ผ้ากลับมามีสีขาวดังเดิม คือ นำเปลือกไข่ป่นลงในอ่างที่เตรียมไว้สำหรับซักผ้า และแช่ผ้าไว้ซักครู่ จากนั้นจึงซักผ้าตามปรกติ ผ้าของคุณก็จะกลับมาขาวสะอาดเหมือนใหม่

อัญมณี สื่อความหมาย

คุณสมบัตพิเศษของอัญมณี

เพชร เป็นอัญมณีล่ำค่า สดใสเป็นประกาย เพชรเป็นสัญญลักษณ์ของความกล้าหาญ ความบริสุทธ์ ความไร้เดียงสา แสดงถึง ความรักที่บริสุทธ์

มรกต เป็นตัวแทนแห่งรักแท้ ชายใดใส่มรกต จะได้รับรักแท้จากหญิงสาว มรกตสามารถแสดงให้เห็นว่า ความรักจะสดใส หรือเปลี่ยนไป ตามสีที่เคยสดใส เป็น ขุ่นมัว เมื่อความรักจืดจาง เย็นชาไป

Amethyst เป็นพลอยสีม่วง มีความสัมพันธ์ กับนักบุญ เซนต์ วาเลนไทน์ คนที่ใส่เครื่องประดับชนิดนี้ จะเป็นคนมีเสน่ห์ ช่วยเสริมให้มีโชคลาภ ที่สำคัญ สามารถขจัด อาการมึนเมา แบบหัวราน้ำได้ด้วย

ทับทิมสยาม เป็นอัญมณีสดใส เป็นประกายสีแดง ช่วยเสริมสร้างความรัก และมิตรภาพ ที่ดีงามให้กระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้วยความที่ทับทิมเป็นสีแดง จึงเหมาะที่จะเป็นของขวัญในวันแห่งความรัก และถ้าทับทิมรูปหัวใจ จะทำให้มีความหมายยิ่งขึ้น

Blue Sapphire สีน้ำเงินสดใส นำโชคสำหรับการหมั้นหมาย และรักแท้ จึงเป็นอัญมณีอีกชนิดหนึ่ง นอกจากเพชรที่ใช้แทนความรัก ช่วยนำ และเสริมสร้าง ความงดงาม ความสุข มาให้ คุณสมบัติพิเศษ สามารถบำบัดรักษา โรคผิดปกติ ทางสมอง ได้ด้วย

Yellow Sapphire เป็นอัญมณี สีเหลืองทอง สดใส นำโชคลาภ ความเป็นศิรมงคล มาให้ผู้ใส่ ยิ่งถ้ามีสีสดใสเป็นพิเศษ สีเหลืองจะใส เป็นประกายสว่างวาว สามารถขจัดโรคที่เกิดขึ้นกับหน้าอก โรคปวดข้อ กระดูก ได้อย่างน่าทึ่ง

Turquoise เป็นหินสีฟ้าอมเขียว ส่วนมากจะทึบแสง มีอนุภาพมาก ต่อสุขภาพผู้สวมใส่ ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ เคราะห์ร้าย อันตรายต่างๆ ทำให้เป็นที่นิยมใส่กันในเวลาเดินทาง หรือหากบางคนไม่เป็นเป็นเครื่องประดับ จะพกติดตัวเป็นเครื่องลางก็ได้

Garnet เป็นพลอย คล้ายทับทิม แต่มีสีเข้มกว่าจนเกือบเป็นสีน้ำตาล ว่ากันว่าพลอยชนิดนี้ ป้องกันการอักเสบของแผล เสริมสร้างให้สุขภาพที่ดี ทำให้อารมณ์เบิกบานร่าเริง Garnet จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ ในด้านด้านความรัก และ ความเป็นมิตรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

Pearl เป็นพลอยที่สร้างแรงบันดาลใจในความรัก และยังสามารถใช้รักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ขจัดความหงุดหงิด กระวนกระวายใจ และสามารถนำมาทำเครื่องลาง นำโชคได้ด้วย


หลังจากที่ได้รับทราบ เกร็ดความรู้ที่เรามอบให้เป็นแนวทางไปแล้ว คุณคิดออกหรือยัง ว่าในวันวาเลนไทน์นี้ คุณจะมอบอัญมณีชิ้นไหนให้คนที่คุณรัก

ปากบอกนิสัย

นอกจากคำพูดที่ออกมาจากปาก จะสามารถบอกถึงนิสัยของแต่ละคนแล้ว รูปปากของคุณก็ยังบอกได้ว่าคุณเป็นคนอย่างไร

ริมฝีปากกว้าง และบาง
แสดงถึง คุณเป็นคนมีความรับผิดชอบสูงกับตัวเองและผู้อื่น ในเรื่องส่วนตัว และธุรกิจ คุณมีอิสระในการตัดสินใจ แต่จะมีปัญหาในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอยู่เสมอ ในเรื่องของอารมณ์ คุณสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี สุขุม มีความมั่นใจในตัวเอง

ริมฝีปากอิ่ม ยั่วยวน
แสดงถึง คุณมีความสามารถในการรับมือกันสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี ชีวิตคุณ มีความสนุกสนานอยู่เต็มหัวใจ และคุณพร้อมที่จะมอบให้คนรอบข้างตลอดเวลา คุณใช้โอกาสในวันหนึ่ง ๆ ได้อย่างคุ้มค่า โดยไม่กังวลถึงวันพรุ่งนี้ คุณมีอารมณ์อ่อนไหว รักอิสระ

ริมฝีปากบางและแคบ
แสดงถึง คุณให้ความสำคัญเรื่องจิตใจ ความรู้สึก มากกว่าร่างกาย คุณเป็นคนช่างเพ้อฝัน และมักจะซ้อนตัวอยู่ในความฝันมากกว่าความเป็นจริง คุณเป็นคนรักสันโดษ แต่หากจะเข้าสังคม แล้วคุณจะเลือกสรรสังคมนั้น ๆ ว่าเป็นพวกที่สุภาพและมีวัฒนธรรม

ริมฝีปากอิ่มและแคบ
แสดงถึง คุณเป็นคนมั่นคง รักความสงบ เรียบง่าย สบาย ๆ แต่นิสัยช่างจุกจิก ประจำตัว เพลา ๆ หน่อยก็ดี เพราะจะทำให้ชีวิตของคุณสงบนิ่งยิ่งขึ้น คุณมีความสุขในการรับประทานอาหารดี ๆ มีประโยชน์ เพราเป็นช่วงที่ทำให้คุณรู้สึกดี สบายใจมากขึ้น

ริมฝีปากคว่ำ
แสดงถึง คุณจะเป็นผู้ตระหนักดีว่า ชีวิตนี้ ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ ทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิตคุณ ทำให้คุณมองโลกอย่างระมัดระวัง และรอบคอบมากขึ้น

ริมฝีปากหงาย
แสดงถึง คุณเป็นคนอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี ทำให้ผู้อื่นอยากคบหาสมาคมด้วย การเป็นคนมองโลกในแง่ดี จะสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ดีที่สุด

ริมฝีปากด้านบนบาง
แสดงถึง คุณพึงพอใจในความเป็นตัวตนของคุณเอง ความสนุกสนานของคุณ

ริมฝีปากด้านบนอิ่ม
แสดงถึง ความเป็นคนทะเยอทะยาน ช่างเพ้อฝัน ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ตัวเองเป็น พยายามจะวิ่ง จะแสวงหาความพอดีอยู่ตลอดเวลา

ริมฝีปากบนยื่น
แสดงถึง ชีวิตคุณ เต็มไปด้วยความยากลำบาก คุณไม่ชอบการตัดสินใจที่รวดเร็ว เพราะจะทำให้คุณพลาดพลั้งเสียโอกาสที่ดีได้ และคุณก็จะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ อีก

ริมฝีปากล่างยื่น
แสดงถึง ชีวิตคุณมักจะพบกับความยากลำบากเสมอ คุณชอบที่จะทำงาน โดยเน้นการปฎิบัติมากกว่า



GAT PAT คืออะไร จะเตรียมตัวอย่างไรเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย

GAT PAT ระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย ปี 2553

เนื่องจากสำนักทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยถึงการจัดสอบความถนัดทั่วไป (General Aptitude Test หรือ GAT) และความถนัดเฉพาะด้าน/วิชาการ (Professional A Aptitude Test หรือ PAT) พื่อใช้เป็นคะแนนในการนำไปสอบระบบกลางการรับนิสิต นักศึกษา หรือแอดมิชชั่นส์กลางว่า ตามที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติว่าการสอบแอดมิชชั่นส์ปี 2553 นั้นจะใช้สัดส่วนคะแนนดังนี้

1. ปี 2553 ทปอ. จะใช้องค์ประกอบต่อไปนี้ในการยื่น คะแนนเข้ามหาวิทยาลัย

1) GPAX 6 ภาคเรียน 20 %

2) O-NET (8 กลุ่มสาระ) 30 %

3) GAT 10-50 %

4) PAT 0-40 %

รวม 100 %

หมายเหตุ

1. GPAX คือ ผลการเรียนเฉลี่ย สะสม 6 ภาคเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียน รู้

2. GAT คือ General Aptitude Test ความถนัดทั่วไป

3. PAT คือ Professional Aptitude Test ความถนัดเฉพาะ วิชาชีพ

2.รายละเอียดเกี่ยว กับ GAT

1. เนื้อหา

- การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์และการแก้โจทย์ ปัญหา(ทาง คณิตศาสตร์) 50%

- การสื่อสารด้วยภาษา อังกฤษ 50%

2. ลักษณะข้อสอบ GAT จะเป็นปรนัย และอัตนัย

- คะแนนเต็ม 200 คะแนน เวลาสอบ 2 ชั่วโมง

- ข้อสอบ เน้น Content Free และ Fair

- เน้นความซับ ซ้อน (Complexity) มากกว่า ความยาก

- มีการออกข้อสอบเก็บไว้เป็นคลังข้อ สอบ

3. จัดสอบปีละหลายครั้ง

- คะแนนใช้ได้ 2 ปี เลือกใช้คะแนนที่ดีที่สุด (จะสอบ ตั้งแต่ม. 4 ก็ได้)

3. รายละเอียดเกี่ยว กับ PAT

1. PAT มี 6 ชุด คือ

PAT 1 วัดศักยภาพทางคณิตศาสตร์

เนื้อหา เช่น Algebra, Probability and Statistics, Conversion,Geometry, Trigonometry,Calculus ฯลฯ

ลักษณะข้อสอบ Perceptual Ability, Calculation skills, Quantitative Reasoning, Math Reading Skills

PAT 2 วัดศักยภาพทางวิทยาศาสตร์

เนื้อหา ชีววิทยา, เคมี, ฟิสิกส์, Earth Sciences, environment, ICT ฯลฯ

ลักษณะข้อสอบ Perceptual Ability, Sciences Reading Ability,Science Problem Solving Ability ฯลฯ

PAT 3 วัดศักยภาพทางวิศวกรรม ศาสตร์

เนื้อหา เช่น Engineering Mathematics, EngineeringSciences,Life Sciences, IT ฯลฯ

ลักษณะข้อสอบ Engineering Aptitude i.e. Multidimensional Perceptual Ability, Calculation Skills, Engineering Reading Ability, Engineering Problem Solving Ability

PAT 4 วัดศักยภาพทางสถาปัตยกรรมศาสตร์

เนื้อหา เช่น Architectural Math and Science ฯลฯ

ลักษณะข้อสอบ Space Relations, Multidimensional Perceptual Ability, Architectural Problem Solving Ability ฯลฯ

PAT 5 วัดศักยภาพทาง ครุศาสตร์/ ศึกษาศาสตร์

เนื้อหา ความรู้ในเนื้อหาภาษา ไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม วิทยา มานุษยวิทยา สุขศึกษา ศิลปะ สิ่งแวดล้อม ฯลฯ

ลักษณะข้อสอบ ครุ ศึกษา (Pedagogy), ทักษะการอ่าน (Reading Skills),ความรู้ทั่วไปเกี่ยว กับการศึกษาของประเทศไทย การแก้ปัญหาที่เกิดจากนัก เรียน ครู ผู้บริหารโรงเรียน ฯลฯ

PAT 6 วัดศักยภาพทางศิลปกรรมศาสตร์

เนื้อหา เช่น ทฤษฎีศิลปะ (ทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์) ความรู้ทั่วไปทาง ศิลป์ ฯลฯ

ลักษณะข้อสอบ ความคิดสร้าง สรรค์ ฯลฯ

"อย่างไรก็ตาม มีข้อเรียกร้องจากสมาคมฝรั่งเศสที่เสนอขอให้ ทปอ.จัดสอบเรื่องภาษาที่ 2 ด้วย ได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน จีน และญี่ปุ่น เพื่อเป็นการวัดคุณภาพของเด็ก โดยจะขอให้เพิ่มเป็น PAT 7 และย่อยลงไปเป็น 7.1 , 7.2 ตามลำดับ แต่ ทปอ.เสนอว่าให้ทางสมาคมจัดสอบล่วงหน้าก่อนได้และให้กำหนดในเงื่อนไขแอดมิชชั่นว่าผู้ที่จะสอบในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับภาษาเหล่านี้จะต้องผ่านการสอนวัดความรู้ด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีการมาเพิ่มเป็น PAT 7 สทศ.ก็ต้องมาทำการทบทวน PAT ทั้ง 6 ใหม่ ซึ่งก็จะยุ่งยากอีก"ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวและว่า สำหรับข้อสอบ PAT นั้นได้เชิญอาจารย์ทีเชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาเป็นผู้ออกข้อสอบ โดย สทศ.จะอธิบายความต้องการ วัตถุประสงค์การออกให้ทราบ และเมื่ออาจารย์ออกข้อสอบเสร็จแล้วก้จะนำเข้าคลังข้อสอบในรอบแรกก่อนนำมาเข้ากระบวนการกลั่นกรองเพื่อเข้าคลังข้อสอบของ สทศ. ใหม่อีกครั้ง

2. ลักษณะข้อสอบ PAT จะเป็นปรนัย และอัตนัย

- คะแนนเต็มชุดละ 200 คะแนน เวลาสอบชุดละ 2 ชั่วโมง

- เน้นความซับ ซ้อน (Complexity) มากกว่า ความยาก

- มีการออกข้อสอบเก็บไว้ในคลังข้อ สอบ

3. จัดสอบเมื่อนักเรียนอยู่ชั้น ม.6 โดยจัดสอบปีละ 2 ครั้ง

- คะแนนใช้ได้ 2 ปี เลือกใช้คะแนนที่ดีที่ สุด

ขณะนี้ ทปอ.ได้มอบหมายให้ สทศ.เป็นผู้จัดสอบ GAT และ PAT ซึ่งในส่วนของ GAT มีการทดลองรูปแบบการสอบแล้ว โดยจะใช้การสอบทั้งแบบปรนัยและอัตนัย ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 300 คะแนน โดยนักเรียนสามารถสอบได้ 2-3 ครั้ง และเลือกคะแนนสอบครั้งที่ดีที่สุดไปใช้ โดยคะแนนจะเก็บไว้ได้ 2 ปี แต่เด็กต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสอบเอง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มสอบได้ประมาณเดือนตุลาคม 2551 หรืออาจต้นปี 2552 เพื่อให้ใช้ทันแอดมิชชั่นปี 2553

สทศ.ต้องเตรียมเรื่องการออกข้อสอบ โดยได้ขอความร่วมมือจากอาจารย์มหาวิทยาลัยมาช่วยออกข้อสอบให้ นอกจากนี้ สทศ. ยังจะจัดสอบ B-NET ซึ่งเป็นแบบทดสอบความรู้ 5 ภาคเรียนของ ม.ปลาย เพื่อให้มหาวิทยาลัยนำไปใช้ในการรับตรง ซึ่งการที่ สทศ. ต้องจัดสอบ B-NET เพราะไม่ต้องการให้เด็กวิ่งรอกสอบหลายที่ ผอ.สทศ. กล่าว.

ที่มา : เดลินิวส์ , สยามรัฐ

ก็ขอฝากถึงน้องๆที่จะแอดฯ ปี 53 ด้วยนะคะการเตรียมตัว และติดตามข่าวสารเป็นสิ่งสำคัญถึงแม้ว่าการศึกษาไทยจะเปลี่ยนไปมาจนทำให้เด็กไทยมึนหัวหลายครั้ง จะได้เตรียมตัวรับสถานะการล่วงหน้านะ


วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

คำถาม???

1.Personal Computer หรือ PC คือ Computer ประเภทใด
ตอบ Personal Computer หรือ PC เป็น Computer ประเภทที่ใช้กันในบ้าน และ บ้านส่วนใหญ่จะมี
Personal Computer หรือ PC เกือบทุกบ้าน
2.ส่วนที่ถือว่าเป็นสมองของ Computer คืออะไร
ตอบ Central processing unit (CPU)
3.Sound card มีหน้าที่เกี่ยวกับงานทางด้านใดของ Computer
ตอบ เป็นตัวกลาง ในการควบคุม การทำงานที่เกี่ยวข้องกับเสียง ตั้งแต่ การบันทึกเสียง ไปจนถึงการเล่นไฟล์เสียงต่างๆ
4.การทำงานของคอมพิวเตอร์แบ่งการทำงานได้เป็นกี่ส่วน ได้แก่อะไรบ้าง
ตอบ 4 ส่วน ซึ่งได้แก่ รับคำสั่ง เก็บข้อมูล ประมวลผล และแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็น

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สำหรับแม่น้อยกว่านี้ได้อย่างไง


สตรีใด ไหนเล่า เท่าเธอนี้ เป็นผู้ที่ ลูกทุกคน บ่นรู้จัก

เป็นผู้ที่ มีพระคุณ การุณนัก เป็นผู้ที่ สร้างความรัก สอนความดี

เป็นผู้ที่ คอยสั่งสอน เอาใจใส่ คอยห่วงใย เราทุกคน จนวันนี้

เปรียบแสงทอง สว่างล้ำ นำชีวี เธอคนนี้ คือ ”แม่” ของเรา

ดอกเอ๋ยดอกมะลิ
ถึงยามผลิตกลิ่นพราวสกาวต้น
สดสะอาดปราศสีราคีระคน
หมือนกมลใสสดหมดระคาย
กลิ่นมะลิหอมกระไรไม่รู้สร่าง
เปรียบได้อย่างรักแท้ไม่แปรหาย
อันรักแท้แลหัวใจได้บรรยาย
ขอเชิญทาย ณ ที่ไหนจากใคร



แม่ หรือ มารดา เป็นคำที่เรียกผู้ให้กำเนิด และโดยทั่วไป คือ แม่ที่เป็นบุคคลสำคัญของ
ครอบครัวแบบ พ่อ แม่ ลูก เป็นผู้มีพระคุณต่อลูกเพราะเป็นผู้ให้กำเนิด แม่ทั่วไปมีหน้าที่ให้ครอบครัวคือ เลี้ยงลูก ดูแลบ้าน
คนไทยบางคนมักเรียก แม่ ของตัวเองว่า "คุณแม่" ซึ่งถือเป็นคำที่สุภาพกว่าการเรียกว่า "แม่" ห้วน ๆ
ในภาษาไทยบางครั้งคำว่า แม่ ถูกใช้เรียก ผู้หญิง ทั่วๆไป หรือ จำเพาะเป็นกลุ่มๆ เช่น
แม่บ้าน แม่นม หรือบางครั้งก็ใช้เรียกสิ่งที่เป็นตัวหลักของสิ่งอื่น เช่น แม่ทัพ แม่งาน และบางครั้งก็เรียกสิ่งที่ให้กำเนิดสิ่งอื่นๆในธรรมชาติ
สองมือที่ดูนุ่มนวลอ่อนโยน
สองมือที่ดูช่างบอบบางอย่างนั้น
สอง มือที่ดังไม่มีความสำคัญ
คือสองมือที่ทำ ให้โลกหมุนไป

แม้เพียงร่าง กายนั้นเกิดเป็นหญิง
แท้จริงหัวใจนั้นแกร่งยิ่งกว่าชาย
ขอเพียงให้เป็น ได้ดังที่ตั้งใจ
จะทุกข์ทนเดียวดายไม่มีความสำคัญ

บันดาล โลก หมุนเวียนวนไปตามจิตใจ
นำพาให้เป็นไปตามต้องการ
ทุกสิ่งเปลี่ยนแปร ไป ด้วยมือเธอเสกสรร
ดังถ้อยคำประพันธ์ เปรียบเปรยพรรณนา

ถึงชาย ได้กวัดแกว่งแผลงจากอาสน์
ซึ่งอำนาจกำแหงแรงยิ่งกว่า
อันมือไกวเปลไซร้ แต่ไรมา
คือหัตถาครองพิภพจบสากล

บันดาล โลกหมุนเวียนวนไปตามจิตใจ
นำพาให้เป็นไปตามต้องการ
ทุกสิ่งเปลี่ยนแปร ไปด้วยมือเธอเสกสรร
ดังถ้อยคำประพันธ์ เปรียบเปรยพรรณนา

ถึงชายได้กวัด แกว่งแผลงจากอาสน์
ซึ่งอำนาจกำแหงแรงยิ่งกว่า
อันมือไกวเปลไซร้ แต่ไรมา
คือหัตถาครองพิภพจบสากล